ปัญหาขาดทุนของบรรดาธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐ เอเชีย และยุโรปได้กระพือความวิตกกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากระดับการครอบครองที่ต่ำลงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
นิวยอร์ก คอมมูนิตี้ แบงคอร์ป (New York Community Bancorp – NYCB) ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐเปิดเผยในวันพุธที่ 31 ม.ค.ว่า ทางธนาคารประสบปัญหาขาดทุนเป็นจำนวนมากจากธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ขณะที่ อาโอโซระ แบงก์ (Aozora Bank) ของญี่ปุ่นและดอยซ์แบงก์ของเยอรมนีออกโรงเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.พ.) เกี่ยวกับความเสี่ยงจากการที่ธุรกิจของอาโอโซระ แบงก์และดอยซ์แบงก์มีความเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ
สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า การขาดทุนดังกล่าวถือเป็นผลกระทบครั้งล่าสุดจากปัญหา 2 ประการในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์สหรัฐ ซึ่งได้แก่ปัญหาคนทำงานในออฟฟิศน้อยลงนับตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดและปัญหาต้นทุนการกู้ยืมเงินแพงขึ้น
“เราคาดการณ์ว่าจะเกิดความยากลำบากเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากการขยายการปล่อยสินเชื่อสิ้นสุดลงแล้ว” นายคีแรน ไรชูรา รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์อสังหาริมทรัพย์ของบริษัทแคปิตอล อีโคโนมิกส์ระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า “ผู้กู้ยืมเงินจำนวนมากจะถูกกดดันให้ต้องอัดฉีดเงินทุนก้อนใหม่ ปล่อยให้ผู้ปล่อยสินเชื่อยึดสินทรัพย์ หรือขายสินทรัพย์ทิ้งในราคาถูก”
NYCB ซึ่งหุ้นพุ่งขึ้นในปีที่ผ่านมาหลังเข้าซื้อกิจการซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ที่ประสบปัญหาล้มละลายในช่วงที่กลุ่มผู้ปล่อยสินเชื่อระดับภูมิภาคสหรัฐเผชิญวิกฤต ระบุเมื่อวันพุธว่า NYCB ประสบปัญหาขาดทุน 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการปล่อยสินเชื่อให้อสังหาริมทรัพย์เพียง 2 แห่งและต้องกันเงินสำรองชดเชยการขาดทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเปิดเผยดังกล่าวฉุดให้หุ้น NYCB ร่วงลงเกือบ 40% จนกระทั่งลดช่วงบวกทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังเทคโอเวอร์ซิกเนเจอร์ แบงก์ โดยนักลงทุนเทขายหุ้นดังกล่าวต่อเนื่องถึงวันพฤหัสบดี โดยเมื่อวานนี้หุ้นลดลงอีก 14% ในการซื้อขายช่วงแรกของตลาดหุ้นนิวยอร์ก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 67)
Tags: ธนาคาร, ธนาคารพาณิชย์, สหรัฐ, อสังหาริมทรัพย์