ตลท.รับหุ้น ADVICE เข้าซื้อขายวันแรก 31 ม.ค. ด้วยมาร์เก็ตแคป 2 พันล้าน

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ต้อนรับ บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ADVICE” ในวันที่ 31 มกราคม 2567

ADVICE เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายปลีก-ส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ ภายใต้ชื่อ “Advice” ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบไอทีซุปเปอร์สโตร์ ซึ่งจำหน่ายสินค้าไอทีที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทั้งสินค้าไอทีทั่วไปและสินค้าที่มีความต้องการเฉพาะกลุ่ม เช่น อุปกรณ์สำหรับกลุ่มนักเล่นเกมหรือเกมเมอร์ สตรีมเมอร์ ยูทูบเบอร์ และครีเอเตอร์ รวมถึงสินค้ากลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ Internet of Things (IoT) ไปจนถึงสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางสาขาจำนวน 338 สาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ ยังให้บริการรับเคลมสินค้าที่มีปัญหากับผู้ผลิต และให้บริการซ่อมบำรุง ตรวจเช็คอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจร 

ADVICE มีจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO 620,000,000 หุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 450,000,000 หุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 170,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 310,000,000 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม 2567 ในราคาหุ้นละ 3.24 บาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,008.8 ล้านบาท ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 7.26 เท่า โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVICE เปิดเผยว่า ADVICE ได้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความแข็งแกร่งของฐานทุนภายหลังการระดมทุนในครั้งนี้ และการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต

ADVICE มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ในการขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิมให้มีความทันสมัย รวมถึงนำไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และลงทุนปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ

บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายเงินปันผลอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและแผนการดำเนินงานในอนาคต ตามที่คณะกรรมการบริษัท และ/หรือผู้ถือหุ้นของบริษัทเห็นสมควร

ทั้งนี้ ภายหลัง IPO และการขายหุ้นสามัญเดิม ณ วันแรกที่เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ 1) บจก. ไทย จอยเวนเจอร์ กรุ๊ปส์ 25.8% 2) นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ 25.2% และ 3) นายอมร ทาทอง 9.9% คิดเป็นการถือหุ้นรวม 60.9% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 67)

Tags: , , , , , ,
Back to Top