NAT ปิดจ็อบโรดโชว์รอเคาะราคา IPO ส่งซิกผลงานปี 66 ทำนิวไฮ Backlog พุ่งทะลุ 550 ล้าน

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บมจ.แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ (NAT) กล่าวว่า บริษัทได้เดินสายนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ได้เดินสายแล้ว 9 จังหวัด ทั้งชลบุรี, นครปฐม, ราชบุรี, พิษณุโลก, นครสวรรค์, นครราชสีมา, ขอนแก่น, เชียงใหม่, สงขลา และที่สุดท้ายในกรุงเทพฯ นักลงทุนทุกจังหวัดให้การตอบรับ NAT เป็นอย่างดี จากพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแรง และมีโอกาสขยายธุรกิจได้อีกมาก ตามแนวโน้มความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของภาครัฐและภาคเอกชน

ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมกำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ NAT เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ (mai) ในเร็วๆนี้

นางสาวมธุรส สาราณียะธรรม กรรมการผู้จัดการ APM กล่าวว่า NAT มีจุดเด่นคือความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่า 20 ปี พร้อมทั้งการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในระดับสูงสุดกับบริษัทชั้นนำระดับโลก จึงทำให้บริษัทสามารถนำเสนอโซลูชันทางเทคโนโลยีและให้บริการที่มีคุณภาพได้ครบทุกความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้บริษัทยังมีจุดเด่นด้านผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทไม่มีการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน รวมถึงมีกระแสเงินสดที่ดี

ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 92 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วน 28.05% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลัง IPO บริษัทจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาด mai หมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) โดยจะนำเงินทุนมาใช้รองรับการขยายธุรกิจและการให้บริการ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และ การเข้ารับงานโครงการต่างๆ กับกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อปรับตัวสู่เข้าสู่ Digital Transformation อย่างมีคุณภาพ

นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT กล่าวว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทุกพื้นที่ โดยเน้นความสำคัญกับการให้ข้อมูลลักษณะธุรกิจและพื้นฐานทางการเงิน เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจถึงศักยภาพการดำเนินงานและโอกาสการเติบโตของบริษัท

ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งต่างมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของประชาชนผู้ใช้บริการที่มากขึ้น ทั้งในด้านการพัฒนาระบบประมวลฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพ รวมถึงการป้องกันภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท ในการนำเสนอโซลูชันทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์มาตรฐานระดับโลก เพื่อสอดรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด

บริษัทคาดว่าผลประกอบการปี 66 จะสามารถเติบโตทำนิวไฮ จากมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ งวด 9 เดือนของปี 66 จำนวน 551.80 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเข้ารับรู้รายได้จากงานใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มเติม เช่น กลุ่มลูกค้าภาครัฐหน่วยงานอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกลุ่มโทรคมนาคม และ กลุ่มลูกค้าเอกชนกลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มพลังงาน ทั้งนี้ บริษัทมีความมั่นใจเดินหน้าเข้าตลาด mai เพื่อขยายธุรกิจให้แข็งแกร่ง และ สร้างโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top