บรรดานักเทรดพร้อมรับมือ หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐอีกครั้ง หลังจากที่ชัยชนะของเขาเมื่อปี 2559 สร้างความตกตะลึงไปทั่วตลาดการเงิน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อดีตปธน.ทรัมป์ส่อแววได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันไวกว่าเมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่ง ณ เวลานั้นตำแหน่งตัวแทนยังคงไม่แน่นอนจนกระทั่งถึงเดือนพ.ค. นอกจากนี้ โพลสำรวจยังแสดงให้เห็นอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างสูสีระหว่างเขากับปธน.โจ ไบเดน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากสถานะความเป็นรองในปี 2559 มาสู่คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ ด้วยเหตุนี้ วอลล์สตรีทจึงเริ่มให้ความสำคัญกับผลกระทบจากการหวนคืนทำเนียบขาวของทรัมป์
นายดาเนียล โทบอน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ฟอเร็กซ์ของประเทศในกลุ่ม G10 ของซิตี้กรุ๊ป โกลบอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า “ครั้งนี้ ตลาดจะตระหนักถึงความเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่างและให้น้ำหนักไว้ในระดับหนึ่ง เราคาดว่าจะไม่เกิดความผันผวนเช่นที่เคยเป็นในปี 2559 ช่วงหลังการเลือกตั้ง”
ทั้งนี้ ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าการเลือกตั้งจะออกมาตามคาด โดยมีความเสี่ยงที่อดีตปธน.ทรัมป์จะได้รับผลกระทบจากคดีอาญาที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ หรือแม้แต่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในการเลือกตั้ง ส่งผลให้ตลาดหันไปสนใจเรื่องอื่น ๆ มากกว่าการเลือกตั้ง เช่น แนวโน้มทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าหากทรัมป์ชนะ สิ่งที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น ได้แก่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสกุลเงินของคู่ค้าอ่อนค่าลง โดยอิงจากนโยบายที่ทรัมป์เคยใช้คราวก่อน เช่น การกำหนดภาษีนำเข้า 10% และทำให้การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2560 มีผลถาวร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 67)
Tags: โดนัลด์ ทรัมป์