ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระบุในวันนี้ (26 ธ.ค.) ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ได้อนุมัติให้ขยายเวลาในการลดภาษีนำเข้าข้าวและสินค้าอาหารประเภทอื่น ๆ จนถึงสิ้นปี 2567 เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาอาหารเหล่านี้ท่ามกลางความเสี่ยงเรื่องสภาพอากาศแห้งแล้งในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้อนุมัติให้ลดภาษีนำเข้าข้าวและสินค้าอาหารประเภทอื่น ๆ ครั้งแรกในปี 2564 ก่อนขยายเวลาเพิ่มเติมมาจนถึงปีนี้เนื่องจากเงินเฟ้อสูงและต่อมาปธน.มาร์กอสระบุว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องขยายมาตรการดังกล่าวออกไปอีกครั้งจนถึงสิ้นปีหน้า
“ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นเหตุผลที่รองรับให้ฟิลิปปินส์เดินหน้าลดภาษีนำเข้าข้าว ข้าวโพด และเนื้อสุกรต่อไป เพื่อตรึงราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่จับต้องได้เพื่อรับประกันความมั่นคงทางอาหาร” ปธน.มาร์กอสระบุในแถลงการณ์
เงินเฟ้อฟิลิปปินส์อยู่ที่ 4.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แต่เฉลี่ยอยู่ที่ 6.2% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2%-4% สำหรับปีนี้ของธนาคารกลางฟิลิปปินส์อย่างมาก
ปธน.มาร์กอสระบุว่า การขยายเวลาลดภาษีนำเข้าอาหารนี้มีวัตุประสงค์เพื่อรับประกันว่าข้าว ข้าวโพด และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จะยังคงมีราคาย่อมเยา ในขณะที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่เป็นผลพวงของปรากฎการณ์เอลนีโญในช่วงต้นปีหน้าและความเสี่ยงแบบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร
สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานโดยอ้างอิงคำสั่งบริหารใหม่ว่า อัตราภาษีนำเข้าข้าวจะอยู่ที่ 35% ขณะที่ ภาษีนำเข้าข้าวโพดจะอยู่ที่ 5%-15% ส่วนภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรจะอยู่ที่ 15%-25%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 66)
Tags: ข้าว, ฟิลิปปินส์, ภาษีนำเข้า, เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์