บริษัทขนส่งใหญ่ประกาศเปลี่ยนเส้นทางเดินเรืออ้อมทะเลแดง หวั่นฮูตีถล่ม

โอโอซีแอลของฮ่องกงและฮาแพค-ลอยด์ของเยอรมนีประกาศในวันพฤหัสบดี (21 ธ.ค.) ว่าจะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางเดินเรืออื่นแทนทะเลแดงเช่นเดียวกับบริษัทสายการเดินเรือรายอื่น ๆ เนื่องจากวิตกกังวลต่อกรณีที่กลุ่มกบฎฮูตีของเยเมนโจมตีเรือขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อกดดันให้อิสราเอลยุติสงครามกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

ทั้งนี้ เหตุกลุ่มฮูตีโจมตีเรืออย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซซึ่งรองรับการขนส่งสินค้าทั่วโลกประมาณ 12% โดยคลองสุเอซเป็นเส้นทางสำคัญที่สุดในการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างเอเชียกับยุโรป แต่กลุ่มผู้บริหารด้านโลจิสติกส์ระดับโลกเตือนว่า การเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือจะกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก เกิดปัญหาสินค้าคั่งค้างบริเวณท่าเรือ และภาวะขาดแคลนเรือ ตู้คอนเทนเนอร์ และอุปกรณ์

“สถานการณ์ยังคงไม่มั่นคง สิ่ง ๆ ต่างสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็วและนั่นคือเหตุผลที่ต้องมีแผนฉุกเฉินเพื่อให้ห่วงโซ่อุปทานเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ติดขัด” นายแมทธิว เบอร์เกสส์ รองประธานฝ่ายบริการทางทะเลระดับโลกของบริษัทซีเอช โรบินสัน เวิลด์ไวด์ (C.H. Robinson Worldwide) ระบุ

ฮาแพค-ลอยด์ระบุว่าจะเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือสำหรับเรือ 25 ลำภายในสิ้นปีนี้จากเดิมที่ใช้เส้นทางคลองสุเอซ หลังอัตราค่าระวางเรือและสินค้าคั่งค้างเพิ่มสูงขึ้นเพราะภาวะติดขัดดังกล่าว โดยการระงับใช้เส้นทางทะเลแดงและคลองสุเอซจะทำให้ต้องอ้อมไกลไปรอบทวีปแอฟริกาแทน

“เราได้สั่งการให้เรือของโอโอซีแอลเปลี่ยนเส้นทางหรือระงับการเดินเรือผ่านทะเลแดง” โอโอซีแอลกล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โอโอซีแอลออกมายืนยันเรื่องการระงับการเดินเรือผ่านทะเลแดง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มฮูตีซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน ได้ก่อเหตุโจมตีเรือหลายลำที่เคลื่อนผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบ (Bab-el-Mandeb Strait) ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของทะเลแดงตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อตอบโต้อิสราเอลที่ทำสงครามกับกลุ่มฮามาส

กรณีดังกล่าวทำให้บรรดาเทรดเดอร์ต้องเร่งหาเส้นทางอื่น ๆ ทดแทนเพื่อส่งสินค้าไปยังกลุ่มผู้ค้าปลีก เช่น การขนส่งทางอากาศ เนื่องจากการอ้อมไกลไปทวีปแอฟริกานั้นทำให้ต้องใช้เวลาขนส่งเพิ่มขึ้นประมาณ 10-14 วัน

เฟรตทอส (Freightos) ระบุเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า ต้นทุนการขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์จากจีนไปยังเมดิเตอร์เรเนียนพุ่งขึ้น 44% ในเดือนธ.ค.สู่ 2,413 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากปัญหาติดขัดในทะเลแดง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top