สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การชอปปิงออนไลน์ในสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงฤดูกาลวันหยุดยาวปีนี้ หลังซบเซาลงต่ำกว่าช่วงโควิด-19 ระบาดเป็นเวลา 2 ปี โดยผลสำรวจ All-America Economic Survey ของซีเอ็นบีซีพบว่า 57% ของชาวอเมริกันยกให้การชอปปิงออนไลน์เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 และ 2 ในการซื้อของขวัญคริสต์มาส
ในปี 2549 การชอปปิงออนไลน์คิดเป็นสัดส่วนเพียง 18% ของคำตอบของผู้ตอบแบบสอบถาม ก่อนจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดมากที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เลือกให้การชอปปิงออนไลน์เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ก่อนหดตัวลงสู่ระดับ 51% เมื่อปีที่แล้ว และในปีนี้สัดส่วนดังกล่าวพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
การสำรวจความคิดเห็นของชาวสหรัฐ 1,002 คนทั่วประเทศดังกล่าว จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 ธ.ค.โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ +/-3.1%
ทั้งนี้ สาเหตุของการปรับตัวขึ้นยังคงไม่ชัดเจน แต่การใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ อาจบ่งชี้ถึงการค้นหาสินค้าราคาถูกเพื่อต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ โดยกลุ่มผู้ที่ใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นนั้นเป็นผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแผนการใช้จ่ายที่ประหยัดมากกว่าและมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ประชากรกลุ่มนี้ใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์น้อยกว่าผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 18-49 ปี นอกจากนี้ กลุ่มที่ใช้จ่ายผ่านทางออนไลน์ในปีนี้มากกว่าเมื่อปีที่แล้วได้แก่ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ และกลุ่มผู้ที่มีแผนซื้อของขวัญในราคาไม่เกิน 200 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์เป็นอย่างมาก
นายไมกาห์ โรเบิร์ตส์ จาก Public Opinion Strategies ผู้จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้กล่าวว่า “เราทราบจากข้อมูลทั้งหมดนี้ว่า เงินเฟ้อคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนใช้จ่ายน้อยลง โดยของทุกอย่างแพงขึ้น ดังนั้นคุณจะต้องจ่ายมากขึ้นเพื่อซื้อมัน”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 66)
Tags: ชอปปิงออนไลน์, สหรัฐ, อีคอมเมิร์ซ