MGI ขอบันทึกประวัติศาสตร์ธุรกิจเวทีนางงามเทรด mai วันแรก 14 ธ.ค. ยัน “ณวัฒน์” กอดหุ้นไม่ปล่อย

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ในวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ในชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “MGI” นับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การขยายตลาดสร้างความยั่งยืน และต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาสมากขึ้น และพาทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของมิสแกรนด์ร่วมเติบโตไปด้วยกัน

MGI เป็นเจ้าของเวทีประกวดนางงามก้องโลก “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์” และ “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการประกวดนางงามทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ให้เป็นเวทีนางงามที่ได้รับกระแสนิยมมากที่สุด ภายใต้สโลแกน “นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์” ทำให้มีผู้คนติดตามและมีส่วนร่วม (Engagement) และสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาสได้อย่างครบวงจร ส่งมอบสินค้าและบริการแก่ลูกค้าให้ประทับใจที่สุด พร้อมพัฒนาและเสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง

บริษัทมีความเชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในการจัดประกวดนางงามจนมีฐานแฟนเพิ่มขึ้น และกำลังขยายฐานสู่ตลาดโลกมากขึ้น เป็นจุดแข็งสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจอีกมากมาย และความภาคภูมิใจของ MGI จากการประเมินของ Global Beauties ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์การประกวดนางงามระดับนานาชาติที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1998 ได้มีการจัดอันดับ 5 เวทีระดับ Grand Slam Beauty Pageant ในเดือนมิถุนายน 2566 โดย Miss Grand International เป็นเวทีที่จัดการประกวดโดยคนไทยที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ใน GRAND SLAM TOP 5 ที่ทัดเทียมในระดับสากลโลก และเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) ที่แข็งแกร่งของคนไทย

หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ MGI เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 297 ล้านบาท สนับสนุนฐานทุน MGI ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ และสามารถเติบโตก้าวกระโดดได้

นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า MGI มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับประสบการณ์ในฐานะผู้นำที่คร่ำหวอดอยู่ในอุตสาหกรรม ถือเป็นบริษัทเจ้าของเวทีประกวดนางงามรายแรกที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้ภายใต้สภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของ MGI อยู่ในอุตสาหกรรมที่ดี มีผลประกอบการที่ดี ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และสินค้าที่จัดจำหน่ายอยู่ในเทรนด์ของผู้บริโภค เชื่อว่า จะทำให้ MGI ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในระยะยาว

ทั้งนี้ ในด้านผลการดำเนินงานของ MGI มีการเติบโตอย่างโดดเด่น งวด 9 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 432.45 ล้านบาท กำไรสุทธิ 77.13 ล้านบาท มากกว่าทั้งปี 65 และเป็นการเติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยธุรกิจพาณิชย์ จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นรายได้กลุ่มหลัก สัดส่วนรายได้ 41% ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 13% ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19% ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 23% และรายได้ค่าเช่าช่วง MGI Hall 4% ด้วยจุดเด่นของ MGI เป็นบริษัท Cash Cow มีเงินสดในมือจำนวนมาก เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้ ซึ่งหากดูอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ต่ำเพียงประมาณ 0.8 เท่า หนี้สินส่วนใหญ่คือเจ้าหนี้การค้า ส่วนอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ต่ำมาก <0.01 เท่า สะท้อนฐานการเงินแข็งแกร่ง ธุรกิจเติบโตสูง

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/66 ธุรกิจที่อยู่ใน Ecosystem ของ MGI เติบโตไปพร้อมกัน และถือเป็นช่วงเก็บเกี่ยวหลังจากการประกวดแล้วเสร็จ นางงามได้รางวัล เริ่มทำอีเวนท์ต่างๆ และมีกิจกรรมการตลาดอย่างคึกคัก รวมทั้งการรับรู้ค่าลิขสิทธิ์จากการจัดงาน Miss Grand International รวมถึง ยอดจัดจำหน่ายสินค้าที่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และ TikTok ที่กระแสยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง จึงมั่นใจ MGI มีความแข็งแกร่งอย่างมากทั้งในแง่ธุรกิจ และฐานทุน โดยเตรียมลงทุนเพื่อต่อยอดไปสู่ความยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนในระยะยาวได้

ขณะที่ MGI มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 อันดับแรกก่อนและหลัง IPO คือ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล และนายรัชพล จันทรทิม ซึ่งยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นของบริษัทในอนาคต เนื่องจากทั้งสองคนเป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่เริ่มแรก เป็นผู้ที่ช่วยกันบริหารบริษัทให้มีความเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และทั้งสองคนยังมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจที่แน่วแน่ในการบริหารบริษัท และนำพาบริษัทให้เจริญเติบโตบรรลุเป้าหมาย ให้บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนางงามโลกให้สำเร็จ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top