น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.71 กังวลศก.ซบฉุดดีมานด์ชะลอตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือนในวันอังคาร (12 ธ.ค.) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด และอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐ

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.71 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 68.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2566
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2.79 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 73.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2566

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.2% ในเดือนต.ค.

แต่เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไม่เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค. หรือปรับตัวขึ้น 0.0%

จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital LLC กล่าวว่า ดัชนี CPI เดือนพ.ย.ที่ปรับตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ทำให้นักลงทุนลดน้ำหนักการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า และกังวลว่าการที่เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและทำให้อุปสงค์น้ำมันชะลอตัวลงด้วย

ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 43.7% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. 2567 ซึ่งลดลงจากระดับ 50% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 78% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 75% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI

นอกจากนี้ นักลงทุนไม่มั่นใจต่อมติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในการปรับลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งเป็นไปในลักษณะของการสมัครใจของประเทศสมาชิก แทนที่จะเป็นการกำหนดโควตาอย่างเป็นทางการ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญา และการตรวจสอบการผลิตน้ำมันของสมาชิกโอเปกพลัส

นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ (13 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ และจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้เช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top