หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์หลังลงแรง เก็งโครงการ e-Fund รอเข้าครม.วันนี้

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ แต่ลุ้นรีบาวด์ หลังเมื่อวานดัชนีปรับลงจากแรงขายหุ้น AOT ซึ่งคาดจะมีแรงซื้อกลับวันนี้ และภาพรวมตัวเลขส่งออกยังออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ประกอบกับวันนี้มีการนำโครงการ e-Refund เข้าครม.ช่วยหนุนต่อหุ้นค้าปลีกและ Sentiment ตลาด พร้อมให้แนวต้าน 1,400 จุด แนวรับ 1,385 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ แต่มีโอกาสรีบาวด์ได้เล็กน้อย หลังเมื่อวานปรับตัวลงมาจากแรงกดดันหุ้น AOT ซึ่งคาดว่าวันนี้จะมีแรงซื้อกลับมาช่วยหนุนดัชนี ขณะที่ภาพปัจจัยในประเทศยังมีแรงหนุนจากการส่งออกเดือนต.ค.ที่ขยายตัวได้ 8% ซึ่งใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด

ส่วนในวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการพิจารณาโครงการ e-Refund ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงหนุนให้กับหุ้นในกลุ่มค้าปลีกได้ และช่วยหนุน Sentiment ตลาดหุ้นไทย ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

โดยให้แนวต้าน 1,400 จุด แนวรับ 1,385 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,333.47 จุด ลดลง 56.68 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,550.43 จุด ลดลง 8.91 จุด หรือ -0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,241.02 จุด ลดลง 9.83 จุด หรือ -0.07%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,520.39 จุด เพิ่มขึ้น 72.72 จุด หรือ +0.22% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,541.48 จุด เพิ่มขึ้น 16.42 จุด หรือ +0.09% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,028.60 จุด ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.10%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 พ.ย.66) ที่ 1,393.42 จุด ลดลง 4.01 จุด (-0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 36,302.87 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 637.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พ.ย.66.
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.(27 พ.ย.) ลดลง 68 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 74.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 พ.ย.66) อยู่ที่ 3.49 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.98 แข็งค่า รับดอลลาร์อ่อน-บอนด์ยีลด์ร่วงหลังตัวเลขศก.สหรัฐแย่กว่าคาด
  • “เลขา ก.ล.ต.” เผยเรียกประชุม สมาคมโบรก เพื่อรับฟังความเห็น หวังหนุนตลาดทุนไทยยั่งยืน ด้าน “นายกสมาคมโบรก” หารือช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นลงทุนคอนเฟิร์มวิธีการปฏิบัติงานของ บล. ด้านนายกสมาคมนักวิเคราะห์ ยัน ตลท.มีมาตรการตรวจสอบเน็กเก็ตชอร์ตอยู่แล้ว
  • สศช.เตือนงบสวัสดิการด้านสังคมพุ่งทะลุ 1 ล้านล้าน ทำพื้นที่การคลังลด แนะประสิทธิภาพเก็บภาษี ลดความซ้ำซ้อนสวัสดิการ ควบคู่แก้ปัญหากับดักหนี้เกษตรกร-ประชาชน รัฐบาลเตรียมแถลงแก้หนี้นอกระบบใช้กลไกมหาดไทยเจรจาลูกหนี้-เจ้าหนี้ ลุ้น ก.พ.ชง ครม.วันนี้ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ดึงงบกลางจ่ายก่อน สศช.ชี้ปรับฐานเฉพาะข้าราชการบรรจุใหม่ ให้แข่งขันเอกชนได้ ไม่ขึ้นทั้งระบบ
  • ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ช่วง 10 เดือนแรกปี 66 การส่งออกมีมูลค่า 236,648.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 2.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 243,313.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 4.6% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 6,665 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการส่งออกเดือน ต.ค. 2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8% การนำเข้ามีมูลค่า 24,411.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10.2% โดยดุลการค้าขาดดุล 832.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • “คลัง” แจง พร้อมชง ครม.เคาะลุยโครงการ e-Refund ชูนำค่าใช้จ่ายไม่เกิน 5 หมื่นบาทลดหย่อนภาษี หวังกระตุ้นใช้จ่ายปลุกเศรษฐกิจ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AAI (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 4 บาท ส่งออกค่อยๆ กลับมาดี ตัวเลขส่งออกอาหารสุนัข-แมว ต.ค.ขยายตัว 5.5% (เดือนก่อน -7.9%) ส่งสัญญาณไตรมาส 4 และปี 67 ฟื้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมี catalyst จากการขยายลูกค้ารายใหม่ในสหรัฐฯ 2 รายในช่วงต้นปี 67 มองบวกต่อส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงกลับมาโต YoY ในรอบ 1 ปี จาก inventory destocking ทยอยคลี่คลาย ขณะที่ส่งออกอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปและส่งออกไก่ยังใกล้เคียงคาด กำไรปกติไตรมาส 3/66 (ไม่รวมขาดทุน Fx) อยู่ที่ 130 ล้านบาท (-51% YoY, +22% QoQ) กำไรปกติชะลอ YoY จากฐานสูงในไตรมาส 3/65 ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้ามีการเร่งสต็อกสินค้าจากความกังวลภาคขนส่ง ขณะที่กำไรปกติปรับตัวดีขึ้น QoQ
  • CBG (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 88.25 บาท กำไรสุทธิ Q3/66 ที่ 530 ล้านบาท +10%QoQ, +11%YoY ปัจจัยหนุนจากรายได้รับจ้างผลิต OEM ทั้งกระป๋อง ขวดแก้ว ลังกระดาษ รวมถึงขนส่งสินค้าให้เบียร์คาราบาวและเบียร์ตะวันแดง ช่วยชดเชยรายได้เครื่องดื่มชูกำลังลดลงในตลาด CLMV และจีน ส่วนในประเทศยังไปได้จากการคงราคาชาย 10 บาท แนวโน้ม Q4/66 และปีหน้าคาดฟื้นจากยอดคำสั่งซื้อ Packaging สินค้าเบียร์ที่เพิ่งเปิดตัวเข้ามาเต็มปี จาก U-Rate ดีขึ้นได้ Economy of scale จะช่วยเรื่อง GPM แม้ต้นทุนน้ำตาลขยับขึ้น ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 1.9 พันล้านบาท -16%YoY และ 2.6 พันล้านบาท +35%YoY
  • TIDLOR (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท แนวโน้มผลการดำเนินงาน Q4/66 คาดจะทยอยเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นเช่นกันหลังผ่านช่วงแย่สุดในไตรมาส 2/66 ไปแล้ว แม้ภาพรวมอัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวสูง แต่เรายังชอบ TIDLOR ในแง่ Coverage Ratio สูงและช่วยจำกัดความเสี่ยงการตั้งสำรองก้อนใหญ่ ทำให้ Downside ต่อประมาณการปี 66 ที่คาด -7% y-y และเร่งตัวแกร่ง +21% y-y ในปี 67 มีจำกัด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top