รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดมุมมองของเศรษฐกิจในเดือนพ.ย.เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายด้านทุนและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ปรับลดมุมมองเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 โดยระบุว่า อัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประเมินล่าสุดของสำนักงานคณะรัฐมนตรีมีขึ้นภายหลังการเปิดเผยข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวในไตรมาส 3/2566 เป็นครั้งแรกในรอบสามไตรมาส เนื่องจากอุปสงค์ลดลง
“เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง แม้ว่าบางภาคส่วนชะลอตัวลงในช่วงนี้” สำนักงานคณะรัฐมนตรีระบุในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ (22 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลปรับลดมุมมองโดยรวมของเศรษฐกิจนับตั้งแต่เดือนม.ค.
“แม้สภาวะธุรกิจและรายได้ของบริษัทต่าง ๆ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความแข็งแกร่งของภาคเอกชนไม่ได้นำไปสู่การเพิ่มค่าจ้างและการลงทุนเสมอไป” เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสำนักงานคณะรัฐมนตรีกล่าว พร้อมเสริมว่า “อุปสงค์ภายในประเทศ เช่น การลงทุนขององค์กร และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ยังขาดความแข็งแกร่ง” เขากล่าว
แม้รัฐบาลยังคงประเมินว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภค “เพิ่มขึ้น” ในเดือนพ.ย. แต่อัตราเงินเฟ้อก็สร้างแรงกดดันต่อการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ในขณะที่การใช้จ่ายด้านบริการ เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อไปได้ในระดับปานกลาง แต่ยังมีความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ภาวะการเงินตึงตัวทั่วโลก และภาวะเศรษฐกิจจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 66)
Tags: ญี่ปุ่น, เศรษฐกิจญี่ปุ่น