สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จีนได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์บางแห่งในประเทศจำกัดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดประสานกับการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงินสดก้อนใหญ่เข้าระบบการเงินเพื่อคลายความวิตกในตลาด หลังเกิดวิกฤตสภาพคล่องอย่างไม่คาดคิดในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของจีนได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ระดับชาติอย่างน้อย 2 แห่งคิดอัตราดอกเบี้ยบัตรเงินฝาก (Negotiable Certificate Of Deposit – NCD) ระยะ 1 ปี ไม่เกิน 2.57%
ขณะที่เว็บไซต์ของศูนย์เงินทุนระหว่างธนาคารแห่งชาติของจีนระบุว่า อัตราดอกเบี้ย PrimeNCD ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยบัตรเงินฝากของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่นั้น เคลื่อนไหวที่ประมาณ 2.57% ในวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากแหล่งข่าวข้างต้น
รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำความพยายามครั้งล่าสุดของหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของจีนในการสร้างความสงบเรียบร้อยในตลาดเงินด้วยการจำกัดต้นทุนในการระดมเงินทุนให้มีเสถียรภาพและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านความผันผวน โดยในวันพุธ (15 พ.ย.) PBOC ได้เพิ่มการสนับสนุนด้านสภาพคล่องด้วยการอัดฉีดเงินสดผ่านโครงการปล่อยกู้ระยะกลางมูลค่า 1.45 ล้านล้านหยวน (2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บรรดาธนาคารพาณิชย์จีนได้เพิ่มการขายตราสารหนี้ระยะสั้นและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าจีนพยายามคลายความวิตกให้กับนักลงทุน หลังเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องเมื่อไม่นานมานี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์จีนได้ออก NCD เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว สู่ระดับกว่า 1 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นตัวเลขรายสัปดาห์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย NCD เป็นตราหนี้สินประเภทหนึ่งที่มีกำหนดเวลาชำระคืน 1–12 เดือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 66)
Tags: PBOC, จีน, ธนาคารกลางจีน, อัตราดอกเบี้ย, เงินกู้, แบงก์ชาติจีน