บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) ประกาศก้าวสำคัญของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ FPT ที่ได้พัฒนาศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel ขนาดพื้นที่รวมกว่า 75,000 ตารางเมตรแล้วอย่างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้แก่กลุ่มบมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทย โดยความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดพื้นที่การเช่าของกลุ่มเซ็นทรัล และนับเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มเซ็นทรัล
นับตั้งแต่ปี 2561 ที่ FPT ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้พัฒนาศูนย์กระจายสินค้าแบบ Built-to-Suit ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียให้แก่เพาเวอร์บาย ด้วยพื้นที่ขนาด 34,300 ตารางเมตร และเมื่อรวมขนาดพื้นที่ของศูนย์กระจายสินค้าทั้งสองแห่งนี้ จะทำให้ FPT มีพื้นที่เช่ารวมจากกลุ่มเซ็นทรัลมากกว่า 100,000 ตารางเมตร โดยทั้งสองโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกัน ในรูปแบบ “โลจิสติกส์แคมปัส” บนทำเลยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ของ FPT และนับเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลได้เป็นอย่างดี
ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมของ FPT ทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาและส่งมอบโลจิสติกส์แคมปัสระดับเวิลด์คลาสแห่งนี้ให้แก่เซ็นทรัล รีเทล ได้สำเร็จตามเวลาที่กำหนด ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ภายในศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel แห่งนี้ ถูกออกแบบให้สามารถรองรับระบบจัดเก็บสินค้าหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังให้ความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับเทรนด์ด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยให้มีพื้นที่ใช้งานแบบไฮบริด
ประกอบด้วย โซนจัดเก็บสินค้าแนวสูง (High Zone) ที่มีการก่อสร้างให้มีความสูงมากถึง 25 เมตร โดยพื้นอาคารสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 10 ตันต่อตารางเมตร สามารถรองรับการขยายงานและการติดตั้งระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ในอนาคต และโซนจัดเก็บสินค้าปรกติ (Low Zone) ความสูง 15 เมตร ที่ออกแบบเป็นเพื่อรองรับการขนถ่ายและกระจายสินค้าแบบ cross-dock
ศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel แห่งนี้ตั้งอยู่ในโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางพลี 6 ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่สะดวกต่อการกระจายสินค้าไปยังกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทย โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดกับถนนสายหลัก ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนทางหลวง และถนนวงแหวนรอบนอก จึงทำให้เซ็นทรัล รีเทล สามารถดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เซ็นทรัล รีเทล ในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และกระจายสินค้าหลากหลายประเภท (multi-category) จากช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย (cross-channel) อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ซุปเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส, ร้านค้าในเซ็นทรัล รีเทล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (ซีเอ็มจี), MUJI, เพาเวอร์บาย ฯ
นอกจากนี้ ศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel ของเซ็นทรัล รีเทล ซึ่งพัฒนาโดย FPT ยังเป็นโครงการศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ริเริ่มนำแนวคิดด้านความยั่งยืนผสานเข้ากับการออกแบบโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนในหลายมิติ ทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
โครงการแฟล็กชิพนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก (Human-Centric Approach) เพื่อสร้างให้เกิดความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ดังจะเห็นได้จากรูปแบบของสถาปัตยกรรมและบรรยากาศโดยรอบโครงการ ที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานให้ดียิ่งขึ้น ภายในยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ ศูนย์ฟิตเนส พื้นที่พักผ่อน ลู่วิ่ง สนามฟุตซอล ห้องอาหาร และอื่นๆ อีกทั้งยังออกแบบให้มีสะพานเชื่อมต่อระหว่างคลังสินค้าและห้องอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกความปลอดภัยให้แก่พนักงาน
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของอาคารเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับใช้ในภายในโครงการ ตลอดจนการออกแบบและก่อสร้างอาคารตามมาตรฐานอาคารสีเขียว หรือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ความมุ่งมั่นที่จะให้บริการและโซลูชั่นที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าเป็นสิ่งที่ FPT ให้ความสำคัญสูงสุด บริษัทมีความภูมิใจที่ได้นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม มาพัฒนาและส่งมอบศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel ที่มีความทันสมัยมากที่สุดเป็นแห่งแรกในประเทศไทยให้แก่ เซ็นทรัล รีเทล ด้วยบริการและโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าแต่ละราย โครงการ Built-to-Suit โลจิสติกส์แคมปัสระดับเวิลด์คลาสแห่งนี้ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Work-Life Balance โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก (Customer Centric and Human Centric) จึงถือเป็นโครงการต้นแบบที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ศูนย์กระจายสินค้าแห่งอื่นในประเทศไทย
นอกจากนี้ พื้นที่ของอาคารยังถูกออกแบบให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์ของซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ รวมถึงรองรับการติดตั้งนวัตกรรมใหม่ในอนาคต เพื่อตอบรับกับ New Normal ที่กำลังมีผลต่อการทำงานของทุกธุรกิจในวันนี้
นายปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายบริหาร บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล เป็นรีเทลรายแรกที่สร้างแพลตฟอร์มฯ Omnichannel เชื่อมต่อระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ ให้ความสำคัญกับช่องทางออมนิชาแนลมาเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด จึงร่วมมือกับ FPT สร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ ให้เป็น Omnichannel ระดับเวิลด์คลาสที่ทันสมัย และใหญ่ที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมในการรองรับกลยุทธ์ด้านออมนิชาแนล โดยเป็นคลังของสินค้า non-food จากทุกหน่วยธุรกิจของเครือเซ็นทรัล รีเทล
พร้อมตอบรับกับทุกช่องทางการขายของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งส่วน Physical Platform และ Digital Platform อย่างเว็บไซต์ Central Online, บริการ Chat & Shop, Click & Collect บริการ e-ordering จึงมั่นใจได้ว่า ต่อให้ลูกค้าจะช้อปสินค้าผ่านช่องทางใด ก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดีแบบเดียวกัน เพราะ Operation ของเราพร้อมจะ support และให้บริการอย่างไร้รอยต่อ ช่วยสร้างความพึงพอใจและความรวดเร็วในการจัดส่งให้ลูกค้ามากขึ้น และศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้จะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเสริมให้เซ็นทรัลรีเทลบรรลุเป้าหมายในการจัดส่งสินค้าได้ภายใน 1 ชั่วโมง สามารถรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการขายผ่านช่องทาง Omnichannel ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของ เซ็นทรัล รีเทลในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 63)
Tags: CRC, FPT, Omnichannel, ค้าปลีก, ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์, ศูนย์กระจายสินค้า, สรรพสินค้าเซ็นทรัล, เซ็นทรัล, เซ็นทรัล รีเทล, เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้, โสภณ ราชรักษา