สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า อุปสงค์เชื้อเพลิงฟอสซิลโลกจะแตะจุดสูงสุดภายในปี 2573 เนื่องจากมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจจีนเติบโตชะลอตัวลง และมีการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด ซึ่งทำให้ไม่มีเหตุผลที่จะเพิ่มการลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มมากขึ้น
รายงานจาก IEA นั้นสวนทางจากมุมมองของโอเปก ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน โดยโอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องไปถึงช่วงหลังปี 2573 และเรียกร้องให้มีการลงทุนในภาคน้ำมันเพิ่มเติม
ในรายงานคาดการณ์พลังงานโลกประจำปีที่เผยแพร่ในวันนี้ (24 ต.ค.) IEA ระบุว่า อุปสงค์น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินโลกจะแตะจุดสูงสุดในทศวรรษนี้ โดยอ้างอิงตามนโยบายปัจจุบันของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ
“ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสะอาดและไม่สามารถหยุดยั้งได้ อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น” นายฟาตีห์ บิรอล ผู้อำนวยการ IEA ระบุ
อย่างไรก็ตาม IEA ระบุด้วยว่า อุปสงค์เชื้อเพลิงฟอสซิลมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ที่ระดับสูงเกินกว่าจะบรรลุเป้าหมายในการจำกัดไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสตามความตกลงปารีส (Paris Agreement)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ต.ค. 66)
Tags: IEA, การลงทุน, พลังงานสะอาด, สำนักงานพลังงานสากล, เชื้อเพลิงฟอสซิล