กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมต้นทุนด้านที่อยู่อาศัยและการขนส่ง และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ให้ความสำคัญ ชะลอตัวลงสู่ระดับ 3% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.1%
ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปเดือนก.ย.ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.1% จากระดับ 4% ในเดือนส.ค.
ธนาคารกลางสิงคโปร์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พื้นฐานในปี 2566 จะอยู่ที่ 4% และคาดว่าในปี 2567 ดัชนี CPI พื้นฐานจะอยู่ที่ 2.5% – 3.5% พร้อมกับคาดการณ์ว่าดัชนี CPI ทั่วไปในปี 2566 จะอยู่ที่ 5% และคาวด่าในปี 2567 ดัชนี CPI ทั่วไปจะอยู่ที่ 3%-4%
ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ยังคงเผชิญความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงราคาพลังงานและอาหารทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงมากกว่าคาดยังส่งผลให้เศรษฐกิจสิงคโปร์มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลงเนื่องจากสิงคโปร์ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นรายได้หลัก
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. ธนาคารกลางสิงคโปร์มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งโดยปกติแล้วธนาคารกลางสิงคโปร์จะดำเนินนโยบายการเงินผ่านการกำหนดกรอบอัตราแลกเปลี่ยนแทนการปรับอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารกลางกำหนดกรอบอัตราแลกเปลี่ยน 3 ด้านด้วยกันซึ่งได้แก่ ความชัน (Slope), ค่ากลาง (Mid-Point) และความกว้าง (Width) ของกรอบอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนด (Policy Band) หรือที่เรียกว่า Nominal Effective Exchange Rate (NEER)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ต.ค. 66)
Tags: สิงคโปร์, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจสิงคโปร์