ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมปรึกษาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลฯ วินิจฉัย ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบ มาตรา 98 (3) หรือไม่
ก่อนหน้านี้ กกต.ในฐานะผู้ร้อง ได้ส่งคำร้องขอให้ศาลฯ พิจารณาวินิจฉัย กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้อง เป็นผู้ถือหุ้นใน บมจ.ไอทีวี ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใด ๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยและขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ตำแหน่ง สส.ของผู้ถูกร้องว่างลง นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟัง
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีคำสั่งให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ในกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 66)
Tags: พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ศาลรัฐธรรมนูญ, หุ้นสื่อ, หุ้นไอทีวี, ไอทีวี