สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับนโยบายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่จะปล่อยให้การจ้างงานและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐ ขณะที่จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป และราคาทองยังได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่น หลังการประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาทอง
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 42.3 ดอลลาร์ หรือ 2.19% ปิดที่ 1,974.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 1.4% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 59.2 ดอลลาร์ หรือ 2.18% ปิดที่ 27.79 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.9 ดอลลาร์ หรือ 1.28% ปิดที่ 940 ดอลลาร์/ออนซ์
- ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 41 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 2,231.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ โดยมีเป้าหมายที่จะให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า “เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%
ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน หลังนายชินโซ อาเบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นด้วยเหตุผลด้านปัญหาสุขภาพ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ส.ค. 63)
Tags: COMEX, ตลาดหุ้น, ทองคำ, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง, ราคาทองคำ