รัฐบาลจีนวางแผนที่จะขยายขอบข่ายการห้ามใช้โทรศัพท์ไอโฟน (iPhone) ของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ให้ครอบคลุมถึงหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและรัฐวิสาหกิจ จากก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่ารัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางใช้ iPhone ในการทำงาน หรือพกพาเข้าไปในสำนักงานของรัฐ โดยข่าวดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า แอปเปิ้ลกำลังเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นในจีนซึ่งเป็นตลาดต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดและเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ระดับโลก
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นแอปเปิ้ลร่วงลงเกือบ 3% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (7 ก.ย.) หลังจากที่ดิ่งลง 4% ในวันพุธ (6 ก.ย.) โดยแม้ว่ารัฐบาลจีนยังไม่ได้เผยแพร่คำสั่งห้ามดังกล่าวต่อสาธารณชน แต่ก็ทำให้ตลาดวิตกกังวลว่า แอปเปิ้ลอาจจะติดอยู่ในวงล้อมของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หน่วยงานหลายแห่งของจีนได้เริ่มสั่งให้เจ้าหน้าที่ห้ามนำ iPhone เข้าไปในที่ทำงานตามคำสั่งของรัฐบาลจีน นอกจากนี้ จีนยังวางแผนที่จะขยายขอบข่ายคำสั่งดังกล่าวให้ครอบคลุมไปถึงรัฐวิสาหกิจและองค์กรต่าง ๆ ที่รัฐบาลควบคุมดูแล
หากรัฐบาลจีนเดินหน้าแผนการดังกล่าว ก็ถือเป็นการตอกย้ำถึงความพยายามที่ยาวนานนับปีที่จีนต้องการจะถอนรากถอนโคนการใช้เทคโนโลยีต่างชาติในสภาพแวดล้อมที่อ่อนไหว รวมทั้งความพยายามที่จะลดการพึ่งพาซอฟต์แวร์และวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสถานะของบริษัทแอปเปิ้ลในตลาดจีนซึ่งสร้างรายได้ให้แก่แอปเปิ้ลในสัดส่วน 1 ใน 5 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท
นอกจากนี้ จีนยังเป็นฐานการผลิต iPhone ที่สำคัญของแอปเปิ้ล โดยเป็นการผลิตผ่านโรงงานสัญญาจ้างหลายแห่ง และมีการจ้างงานชาวจีนหลายล้านคน
ที่ผ่านมานั้น ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในจีน โดย iPhone ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในจีน อีกทั้งได้รับความนิยมทั้งในหน่วยงานของรัฐบาลและเอกชนของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 66)
Tags: iPhone, จีน, แอปเปิ้ล อิงค์, ไอโฟน