นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE) เปิดเผยว่า ADVICE เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.42% ของจำนวนหุ้นหลัง IPO และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจ กลุ่มธุรกิจบริการ /พาณิชย์ ภายในปี 66 หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว
จุดเด่นของ ADVICE เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดค้าปลีกสินค้าไอที พร้อมโอกาสในการเติบโตจากการเปลี่ยนผ่านสู่นวัตกรรมยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการด้านไอทีแบบครบวงจร เป็น 1 ใน 4 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศ จึงเชื่อว่าการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทำให้มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น ในด้านความไว้วางใจ และความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายสินค้า ส่งผลให้ในปัจจุบันมีฐานลูกค้าปลีกและค้าส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและกระจายอยู่ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
ร้าน “Advice” เป็นร้านค้าในรูปแบบไอทีซุปเปอร์สโตร์ จำหน่ายสินค้าไอทีหลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ประกอบ (D.I.Y) คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค (Notebook) คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป (Desktop) และอุปกรณ์เสริมต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจำหน่ายสินค้ากลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ Internet of Things (IoT) ไปจนถึงสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน นอกจากนั้นยังให้บริการรับเคลมสินค้าที่มีปัญหาให้ผู้ผลิต รวมถึงให้บริการซ่อมบำรุงและตรวจเช็คอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจร
บริษัทฯ แบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้ 1. ธุรกิจค้าปลีกสินค้าผ่านหน้าร้านสาขา 2. ธุรกิจค้าปลีกสินค้าผ่านออนไลน์ 3. ธุรกิจค้าส่งสินค้าให้แก่ตัวแทนจำหน่ายและสาขาแฟรนไชส์ 4. ธุรกิจลูกค้าองค์กร และ 5. ธุรกิจบริการ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายกว่า 65% มาจากธุรกิจค้าปลีกให้แก่ลูกค้ารายย่อยทั่วไป รวมถึงลูกค้าองค์กร ผ่านช่องทางหลัก ได้แก่ ช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ ส่วนอีก 35% เป็นการจำหน่ายสินค้าในลักษณะค้าส่งให้แก่ร้านค้าแฟรนไชส์และตัวแทนจำหน่ายสินค้า หรือ “ดีลเลอร์” ในจังหวัดต่างๆ
ณ สิ้นเดือน มิ.ย.66 บริษัทมีสาขา “Advice” รวม 337 สาขา ประกอบด้วย สาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 110 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดสำคัญต่างๆ และสาขาแฟรนไชส์ (Franchise) อีก 227 แห่ง กระจายอยู่ในแหล่งชุมชนในอำเภอและจังหวัดต่างๆ ครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงใน สปป.ลาว บริษัทมีนโยบายลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไอทีที่มีหน้าร้านครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
ในด้านช่องทางออนไลน์ www.advice.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลัก และถือเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซสายไอทีอันดับ 1 ที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดของประเทศ ต่อมาขยายสู่การวางจำหน่ายในอี-มาร์เก็ตเพลสต่างๆ ที่มีฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่ เช่น Shopee และ Lazada ส่งผลให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันบริษัทถือเป็น BIG4 ของผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่สุดของไทย
บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มยอดขายสินค้าควบคู่กับอัตราการทำกำไร ในช่วง 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มยอดขายสู่ 20,000 ล้านบาท และรักษาอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี คาดว่าจะมีหน้าร้าน Advice รวมทั้งสิ้น 420 แห่ง ผ่านการเปิดสาขาของบริษัทเพิ่มอีก 35-40 แห่งในทำเลศักยภาพ เน้นกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก พร้อมขยายสาขาแฟรนไชส์อีก 30-50 แห่ง
ผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (62-65) บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 11,384.7 ล้านบาท 12,541.2 ล้านบาท 14,305.8 ล้านบาท และ 14,388.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) เท่ากับ 8.1% ต่อปี กำไรสุทธิ 134.0 ล้านบาท 233.8 ล้านบาท 430.2 ล้านบาท และ 205.7 ล้านบาท ตามลำดับ
นายณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVICE เปิดเผยว่า การระดมทุนดังกล่าวจะนำไปใช้รองรับการเติบโต เพิ่มความน่าเชื่อถือรวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน บริษัทมีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้ 1.การลงทุนขยายธุรกิจ รวมถึงการขยายสาขาและการปรับปรุงสาขาเดิม 2.ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 3.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และ 4.ลงทุนปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 66)
Tags: ADVICE, รัชดา เกลียวปฏินนท์, หุ้น IPO, หุ้นไทย, หุ้นไอพีโอ, แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท