หุ้นกลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง พาเหรดปรับตัวขึ้น คาดหวังการผลักดันนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย แกนนำจัดตั้งรัฐบาล นำโดย CRC ปรับขึ้น 3.16% หรือเพิ่มขึ้น 1.25 บาท มาที่ 40.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 305.90 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.23 น. จากราคาเปิด 40.25 บาท ราคาสูงสุด 41.00 บาท ราคาต่ำสุด 40.00 บาท
CPAXT ปรับขึ้น 2.19% หรือเพิ่มขึ้น 2.19 บาท มาที่ 35.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 195.70 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.36 น. จากราคาเปิด 34.50 บาท ราคาสูงสุด 35.25 บาท ราคาต่ำสุด 34.50 บาท
CPALL ปรับขึ้น 1.20% หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มาที่ 63.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 763.39 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.38 น. จากราคาเปิด 63.25 บาท ราคาสูงสุด 63.50 บาท ราคาต่ำสุด 62.75 บาท
BJC ปรับขึ้น 1.45% หรือเพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 35.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 25.31 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.41 น. จากราคาเปิด 34.75 บาท ราคาสูงสุด 35.00 บาท ราคาต่ำสุด 34.50 บาท
CPN ปรับขึ้น 1.52% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 67.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 236.10 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.42 น. จากราคาเปิด 66.25 บาท ราคาสูงสุด 67.00 บาท ราคาต่ำสุด 66.00 บาท
SYNEX ปรับขึ้น 5.13% หรือเพิ่มขึ้น 0.60 บาท มาที่ 12.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.97 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.44 น. จากราคาเปิด 11.80 บาท ราคาสูงสุด 12.30 บาท ราคาต่ำสุด 11.80 บาท
นักวิเคราะห์บล.บัวหลวง กล่าวว่า หุ้นกลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้น หวังการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลหลังจากการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ และการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่จะออกมาจากพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งหากสามารถนำไปใช้กับร้านค้าประเภท Modern trade ได้นั้น ถือว่าเป็นปัจจัยหนุนให้กับหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและค้าส่ง โดยเฉพาะ CRC CPALL CPAXT และ BJC รวมถึงหุ้นที่ขายสินค้าไอที เช่น COM7 SYNEX และ JMART ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนยอดขายของกลุ่มค้าปลีกและค้าส่งในระยะสั้นในช่วงที่นโยบายดังกล่าวมีความชัดเจน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 66)
Tags: BJC, CPALL, CPAXT, CPN, CRC, SYNEX, หุ้นกลุ่มค้าปลีก, หุ้นไทย