กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ว่า จะยกเลิกภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด และภาษีตอบโต้การอุดหนุนที่มีต่อข้าวบาร์เลย์ของออสเตรเลีย โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดของการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลีย
จีนกำหนดอัตราภาษีข้าวบาร์เลย์ของออสเตรเลียในระดับที่สูงกว่า 80% ในเดือนพ.ค. 2563 โดยกล่าวหาว่าผู้ส่งออกของออสเตรเลียทุ่มตลาดในจีน ซึ่งหมายความว่าราคาส่งออกนั้นต่ำกว่ามูลค่าปกติของราคาที่จำหน่ายเพื่อการบริโภคภายในออสเตรเลีย
การกำหนดภาษีดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในขณะนั้น เรียกร้องให้มีการสืบสวนระหว่างประเทศเรื่องต้นตอของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีนและออสเตรเลียย่ำแย่ลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจากมีการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งพรรคแรงงานฝ่ายซ้าย-กลาง ได้เป็นรัฐบาลเมื่อเดือนพ.ค. 2565 นั้น จีนและออสเตรเลียก็กลับมาเจรจากันอีกครั้ง และความสัมพันธ์ก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“เมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดข้าวบาร์เลย์ของจีนแล้ว พบว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด และภาษีตอบโต้การอุดหนุนสำหรับข้าวบาร์เลย์ที่นำเข้าจากออสเตรเลียอีกต่อไป” กระทรวงพาณิชย์จีนระบุ
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเม.ย. รัฐบาลจีนประกาศว่าจะพิจารณาทบทวนภาษีข้าวบาร์เลย์เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อเป็นการตอบแทนที่ออสเตรเลียตกลงว่าจะระงับการฟ้องร้องจีนในองค์การการค้าโลก (WTO)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 66)
Tags: ข้าวบาร์เลย์, จีน, ออสเตรเลีย