ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการ และยอดขายบ้านมือสอง
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,996.97 จุด เพิ่มขึ้น 76.67 จุด, +0.33%
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,483.06 จุด เพิ่มขึ้น 369.22 จุด, +1.47%
- ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,570.90 จุด ลดลง 6.22 จุด, -0.39%
ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จากระดับ 50.3 ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะขยายตัวทั้งในภาคการผลิตและบริการ โดยภาคบริการมีการขยายตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 24.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2511 และเมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 27-28 ส.ค. โดยการประชุมดังกล่าวจะปรับรูปแบบเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในหัวข้อ “Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy” ซึ่งถือเป็นการปรับรูปแบบการประชุมครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยไฮไลท์ของการประชุมจะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 63)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย