สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ซึ่งรวมถึงเทมาเส็ก กรุ๊ป โฮลดิงส์, เบลลีย์ กิฟฟอร์ด และแมทธิวส์ เอเชีย ได้พากันแปลงหุ้นอาลีบาบาในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นหุ้นอาลีบาบาในฮ่องกง เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่าอาลีบาบาอาจเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรและถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ
โฆษกของเทมาเส็กโฮลดิงส์ ได้ยืนยันรายงานข่าวดังกล่าว โดยเทมาเส็กได้แปลงหุ้นในตลาดสหรัฐเป็นหุ้นฮ่องกงถึง 12.1 ล้านหุ้น หรือราว 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของหุ้นทั้งหมด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งสัญญาณว่า การที่รัฐบาลสหรัฐได้ขู่ที่จะใช้มาตรการกับบริษัทจีนนั้นส่งผลให้นักลงทุนต้องหาช่องทางหลีกเลี่ยงผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้หุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กนั้นมีสภาพคล่องลดลง
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเจ้าของ ติ๊กต็อก (TikTok) และสั่งแบนวีแชท (WeChat) ในข้อหาเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเปิดเผยว่า กำลังพิจารณาดำเนินการกับบริษัทจีนอื่น ๆ
นอกจากนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยังเรียกร้องให้บริษัทสหรัฐตัดความสัมพันธ์กับบริษัทจีน รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์อย่างอาลีบาบา เทนเซ็นต์ (Tencent) และไป่ตู้ (Baidu) ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 63)
Tags: คว่ำบาตร, สหรัฐ, อาลีบาบา กรุ๊ป, ฮ่องกง, เทมาเส็ก โฮลดิงส์, เบลลีย์ กิฟฟอร์ด, แมทธิวส์ เอเชีย