นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธแสดงความเห็น ว่าควรจะเปลี่ยนตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลหรือไม่ในการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 โดยจะต้องมีการพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยก่อน แต่ยอมรับว่า รู้สึกหนักใจ และไม่สบายใจต่อผลการลงมตินายกรัฐมนตรีที่เกิดขึ้น
ส่วนจะเสนอชื่อนายพิธา ในการโหวตครั้งต่อไปหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอหารือภายในพรรค และต้องรอฟังว่า การประชุม 8 พรรคร่วมจะว่าอย่างไร แต่ยังยืนว่า จะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่
ส่วนจำเป็นต้องไปขอคะแนนเสียงจากขั้วรัฐบาลเดิมหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจร่วมกันของทีมเจรจาว่าจะนำมาใช้เป็นยุทธศาสตร์หรือไม่ เรื่องนี้ทาง 8 พรรคร่วมต้องคุยกัน ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจา
ส่วนกระแสข่าวที่ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและแคนดิเดทนายก เข้าแข่งชิงตำแหน่งในการโหวตครั้งต่อไปนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า หากพิจารณาเสียง ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐแล้ว น่าจะลำบาก เพราะพรรคพลังประชารัฐมี ส.ส.เพียง 40 กว่าเสียงเท่านั้น
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นว่า เรื่องดังกล่าวมีการพูดคุยกันมานานแล้ว และน่าจะเกิดขึ้นได้ลำบาก แต่ขณะนี้การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วจึงควรพูดคุยกันใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 66)
Tags: พท., พรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, เศรษฐา ทวีสิน, โหวตนายก