OECD เผยนานาประเทศเห็นพ้องขยายเวลาระงับเก็บภาษีบริการดิจิทัลไปจนถึงปี 67

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยในวันนี้ (12 ก.ค.) ว่า นอกจากแคนาดาแล้ว ประเทศต่าง ๆ ที่มีการเรียกเก็บภาษีบริการดิจิทัล (digital services taxes) ตกลงที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวเป็นเวลาอย่างน้อยอีกหนึ่งปี โดยเป็นผลมาจากการที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสนธิสัญญาเรื่องภาษีระหว่างประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้แทนที่ภาษีบริการดิจิทัล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เดิมทีแล้วกว่า 140 ประเทศควรจะได้เริ่มใช้ข้อตกลงที่ลงนามเมื่อปี 2564 ในปีหน้า ซึ่งมุ่งยกเครื่องกฎหมายเดิมที่ล้าสมัยเกี่ยวกับวิธีการที่รัฐบาลจัดเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติ เนื่องจากยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลอย่างแอปเปิ้ล หรืออะเมซอน สามารถทำกำไรมหาศาลในประเทศที่มีการจัดเก็บภาษีต่ำ

เนื้อหาส่วนแรกของข้อตกลงภาษีระหว่างประเทศ หรือ เสาหลักแรก (Pillar One) มีเป้าหมายเพื่อจัดสรรสิทธิทางภาษีจากผลกำไรประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ของบริษัทข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรมากที่สุดให้กับประเทศที่มีการขายเกิดขึ้น

รัฐบาลกว่า 30 ประเทศที่มีหรือวางแผนจัดเก็บภาษีบริการดิจิทัลระดับชาติได้เห็นพ้องที่จะระงับการเก็บภาษีบริการดิจิทัลจนถึงสิ้นปีนี้ หรือยกเลิกทั้งหมดเมื่อเนื้อหาส่วนแรกของข้อตกลงภาษีระหว่างประเทศเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

ส่วนเนื้อหาส่วนที่สองของข้อตกลงภาษีระหว่างประเทศ หรือเสาที่สอง (Pillar Two) นั้นเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการแข่งขันด้านภาษีระหว่างรัฐบาลเพื่อดึงดูดการลงทุน โดยกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำอยู่ที่ 15% ตั้งแต่ปีหน้า

หลักจากการหารือในกรุงปารีส OECD ระบุว่า ขณะที่กว่า 50 ประเทศอยู่ในกระบวนการดำเนินการตามเสาที่สอง แต่บางประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับสนธิสัญญาพหุภาคีที่สนับสนุนเสาหลักแรก

ดังนั้น แผนดังกล่าวจึงได้รับการแก้ไขเพื่อสรุปรายละเอียดเพื่อให้รัฐบาลสามารถลงนามได้ก่อนสิ้นปี โดยมีเป้าหมายให้สนธิสัญญามีผลใช้บังคับในปี 2568 แทนที่จะเป็นในปี 2567 ตามที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ OECD เสริมว่า หากมีอย่างน้อย 30 ประเทศลงนาม การระงับสิทธิการเก็บภาษีดิจิทัลระดับชาติจะขยายไปถึงปี 2567 โดยสามารถขยายต่อไปถึงปี 2568 หากจำเป็น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top