PHG แจงผถห.จ่อขายบิ๊กล็อตวันเข้าเทรดให้บุคคล-สถาบันตามไฟลิ่งเท่าราคา IPO สะท้อนความแกร่ง

นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PHG) เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 4 รายยืนยันที่จะทำรายการขายหุ้น PHG บิ๊กล็อตในวันแรกที่เข้าเทรดตามที่กำหนดไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) จำนวนหุ้น 29,205,000 หุ้น ในราคา 21 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาเดียวกับการเสนอขายหุ้น IPO ให้กับนักลงทุนทั่วไป โดยผู้ถือหุ้นทั้ง 3 ราย ได้แก่

1) นายกมลกฤช ตระกูลช่าง 2) นางสาวธนัญชภัสสร เศรษฐาตินันทน์ 3) นางสาวจุฑาบงกช แย้มสอาด และ 4) พญ. นลนภัส แย้มสอาด

ทั้งนี้ในไฟลิ่งระบุว่าผู้ถือหุ้นทั้ง 3 รายจะขายหุ้นจำนวนดังกล่าวให้แก่นักลงทุน 5 ราย ได้แก่ (1) บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) 5% (2) นางสาวสุดา อัศวโภคิน 3.38% (3) นายสมยศ สกุลอิสริยาภรณ์ 0.47% (4) บมจ. ทิพยประกันภัย ในเครือ บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) 0.33% และ (5) บล.ดาโอ (ประเทศไทย) 0.05% ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO

และ หากผู้ถือหุ้นทั้ง 3 ขายหุ้นให้แก่นักลงทุนไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ข้างต้น จำนวนหุ้นที่ไม่ได้ขายจะถูกจำกัดการขายโดยความสมัครใจเป็นระยะเวลา 1 เดือนนับจากวันที่หุ้นสามัญเริ่มซื้อขายวันแรก (Voluntary IPO Lockup)

รวมทั้งนอกจากหุ้นสามัญของผู้ถือหุ้นเดิมที่ติด Silent Period จำนวน 165,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 55% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO หุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมที่เหลือ 29,854,909 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.95% จะถูก Voluntary IPO Lockup ตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน

นายรณชิต กล่าวว่า การขายหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 3 รายจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน โครงสร้างคณะกรรมการ และโครงสร้างการจัดการของบริษัทฯ แต่อย่างใด โดยหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว บริษัทจะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนการใช้เงินภายหลังระดมทุน ได้แก่ สร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ 1 และอาคารจอดรถภายในปี 67, สร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 2 ภายในปี 69, เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในปี 67, ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนภายในปี 66 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 66

การเดินหน้าขยายธุรกิจถือเป็นการต่อยอดพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ รองรับการให้บริการผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่และบริการทางการแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่องและยั่งยืน และที่สำคัญคือการตอกย้ำการเป็นสถานพยาบาลเอกชนชั้นนำที่ให้บริการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง

“เราไม่ได้กังวลการขายหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมบางราย เพราะไม่มีผลกระทบใดๆ กับการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างการจัดการ แต่กลับสะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ทำให้มีกลุ่มนักลงทุนรวมถึงนักลงทุนสถาบันให้ความเชื่อมั่นเข้ามาถือหุ้น PHG ดังนั้น จึงอยากให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น เพราะเรายังให้ความสำคัญในการดำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นทุกกลุ่ม รวมถึงผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ให้ความเชื่อมั่นกับเราตลอดเวลาที่ผ่านมา

และที่สำคัญภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว บริษัทยังคงมีความมุ่งมั่นในแผนการขยายธุรกิจ และเสริมศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์ของเราเพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น สามารถสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต และเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นายรณชิต กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top