นักวิเคราะห์ชี้การกู้เงินด้วยบอนด์ 1 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐส่อกดดันแบงก์

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากกลุ่มนักวิเคราะห์ว่า การกู้เงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐนั้นเสี่ยงที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อระบบธนาคารของสหรัฐ หลังสหรัฐผ่านกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งร้ายแรงเป็นผลสำเร็จในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การผ่านกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ดังกล่าวทำให้สหรัฐสามารถกู้ยืมเงินได้เพิ่มมากขึ้น โดยกระทรวงการคลังสหรัฐจะหาวิธีเพิ่มพูนกระแสเงินสดในคลัง หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2560 ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เจพีมอร์แกนประมาณการว่า สหรัฐจะจำเป็นต้องกู้เงิน 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นภายในสิ้นปี 2566 โดยจะออกพันธบัตรรัฐบาลสุทธิ 8.5 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนข้างหน้า

กลุ่มนักวิเคราะห์วิตกกังวลว่า การออกพันธบัตรรัฐบาลในปริมาณมากจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งทะยานขึ้น จนประชาชนแห่ถอนเงินฝากออกจากธนาคาร เพื่อนำเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก

“ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะการออกพันธบัตรรัฐบาลครั้งใหญ่ของสหรัฐ โดยกรณีดังกล่าวจะทำให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลถูกลงอีก และนั่นจะกดดันธนาคารพาณิชย์” นายเกนนาดี โกลด์เบิร์ก นักกลยุทธ์ของบริษัททีดี ซีเคียวริตี้ส์ระบุ

นายโกลด์เบิร์กคาดการณ์ว่า สหรัฐจะออกพันธบัตรรัฐบาลมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นอกเหนือไปจากช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 และช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดในปี 2563 โดยกลุ่มนักวิเคราะห์ระบุว่า พันธบัตรรัฐบาลเหล่านี้จะมีอายุตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงหนึ่งปี

นายเกรกอรี ปีเตอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนร่วมของบริษัทพีจีไอเอ็ม ฟิกซ์ อินคัมระบุว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า อุปทานพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในท้องตลาดจะเพิ่มสูงขึ้น

กรณีดังกล่าวเพิ่มแรงกดดันต่อเงินฝากของธนาคารพาณิชย์สหรัฐ หลังจากที่เผชิญความยากลำบากอยู่แล้วในปีนี้ หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเหตุการณ์ธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งล้มละลาย ผลักดันให้ลูกค้าแห่ถอนเงินฝาก เพื่อนำไปลงทุนในเครื่องมือการลงทุนชนิดอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

การแห่ถอนเงินฝากเพิ่มเติมและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้บรรดาธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กมากเป็นพิเศษ

“ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นจะกดดันให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก” นายปีเตอร์สกล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top