บรรดาผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในวงการเทคโนโลยีเตือนว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจนำไปสู่การสูญพันธ์ของมนุษย์ และควรลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ด้วยการจัดให้ AI เป็นวาระสำคัญระดับโลก
“การลดความเสี่ยงที่มนุษย์จะสูญพันธุ์อันเนื่องมาจาก AI นั้น ควรถูกจัดให้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญระดับโลก ควบคู่ไปกับความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น โรคระบาด และสงครามนิวเคลียร์” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระบุในจดหมายเปิดผนึกที่เผยแพร่โดยศูนย์ความปลอดภัยด้าน AI (Center for AI Safety)
นายแซม อัลท์แมน ซีอีโอของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแชตบอต ChatGPT รวมถึงผู้บริหารจากบริษัทดีพไมนด์ (DeepMind) ซึ่งเป็นธุรกิจ AI ของกูเกิล และผู้บริหารจากไมโครซอฟท์ เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่สนับสนุนและร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เทคโนโลยี AI เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ ChatGPT ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อเดือนพ.ย. 2565 และกลายเป็นไวรัลอย่างแพร่หลายภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนหลังจากเปิดตัว และมีผู้ใช้งานมากถึง 100 ล้านคน โดย ChatGPT สร้างความประทับใจให้กับนักวิจัยและประชาชนทั่วไป ด้วยความสามารถในการตอบสนองคำสั่งของผู้ใช้งานได้เหมือนกับมนุษย์ ซึ่งเป็นการชี้ว่า AI สามารถทำงานแทนที่มนุษย์และเลียนแบบมนุษย์ได้
จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวระบุว่า ที่ผ่านมานั้น กลุ่มผู้เชี่ยวชาญมีการอภิปรายกันมากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงเป็นวงกว้าง AI แต่ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่า AI เป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุด” และผู้เชี่ยวชาญยังคงเปิดกว้างสำหรับการอภิปรายในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมี.ค. นายอัลท์แมนกล่าวว่าเขามีความหวั่นวิตกเล็กน้อยต่อ AI เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลในประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการอาจจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ขณะที่ผู้นำด้านเทคโนโลยีรายอื่น ๆ เช่น นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา และนายอีริค ชมิดท์ อดีตซีอีโอของกูเกิล เคยออกมากเตือนถึงความเสี่ยงของ AI ที่มีต่อสังคม
ในจดหมายเปิดผนึกเมื่อเดือนมี.ค.นั้น นายมัสก์ รวมทั้งนายสตีฟ วอซเนียก ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ล และผู้นำด้านเทคโนโลยีอีกหลายคน ได้เรียกร้องให้ผู้พัฒนา AI ระงับการฝึกฝนระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพเหนือแชตบอต “GPT-4” เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นภัยต่อสังคมแนะมนุษยชาติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 66)
Tags: AI, ChatGPT, OpenAI, ปัญญาประดิษฐ์, แซม อัลท์แมน, โอเพนเอไอ