“แพทย์รังสิตฯ”เตรียมขายหุ้น IPO 54 ล้านหุ้นเข้า SET หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PHG) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล หรือไฟลิ่งของ PHG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 54,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หรือพาร์หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 18.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HEALTH)

โดย PHG เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ภายใต้โรงพยาบาลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต สามารถรองรับผู้รับบริการทางการแพทย์จากคนในจังหวัด กรุงเทพตอนเหนือ ปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง โดยให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไป กลุ่มลูกค้าภายใต้สวัสดิการภาครัฐ และลูกค้าชาวต่างชาติ โดยปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต มีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง ประกอบด้วยโรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และ โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต จำนวน 155 เตียง 59 เตียงและ 56 เตียง ตามลำดับ

ในขณะที่ผลประกอบการสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 – 2565 และสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัท ฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104.64 ล้านบาท 317.48 ล้านบาท 293.10 ล้านบาท และ 44.55 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ ร้อยละ 6.73 ร้อยละ 15.99 ร้อยละ 14.27 และร้อยละ 9.11 ตามลำดับ

 

นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PHG เปิดเผยว่า PHG ประกอบธุรกิจหลักคือให้บริการทางการแพทย์ภายใต้ กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนกว่า 36 ปี พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกว่า 30 สาขา ที่พร้อมให้บริการดูแลรักษา และให้คำปรึกษาสำหรับผู้บริการในทุกๆกลุ่ม รวมถึงให้บริการศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมงที่มีศักยภาพในการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด หรือ Open Heart Surgery ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน ระดับ 1 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดียวใน สปสช. เขต 4 ซึ่งประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี และนครนายก และที่สำคัญกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิตยังมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคเฉพาะทางแม่และเด็ก เพื่อต่อยอดการพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ เสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการเกี่ยวกับโรคผู้สูงอายุ และโรคทางนรีเวช

สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการช่วงปี 2566-2569 ได้แก่ 1. เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถภายในปี 2567 2. เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 1 ภายในปี 2567 3. เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 2 ภายในปี 2569 4. เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในปี 2567 5. เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงินบางส่วนภายในปี 2566 และ 6. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2566

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เดินหน้าไปอีกก้าว ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจบริษัทให้แข็งแกร่ง เพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาระดับสากล ยังมีกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ รวมถึงการเป็นโรงพยาบาลที่เติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาด้านนวัตกรรม และกระบวนการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความพึงพอใจ และความสะดวกสบายให้แก่ผู้รับบริการทุกกลุ่ม” นายรณชิตกล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 66)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top