ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า การที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นเพราะเขาได้ตัดสินใจลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อขยายเวลาการให้เงินช่วยเหลือผู้ว่างงานจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ในอัตรา 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ หลังจากประชาชนเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด
“เป็นเพราะเราได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร จึงทำให้ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นไปเกือบ 380 จุด เห็นได้ชัดว่าตลาดตอบสนองทันที”
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
รายงานระบุว่า ในขณะที่ปธน.ทรัมป์กำลังกล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาได้รุดนำตัวปธน.ทรัมป์ลงจากโพเดียมการแถลงข่าว หลังเกิดเหตุยิงกันบริเวณนอกทำเนียบขาว แต่หลังจากนั้นประมาณ 7 นาที หน่วยอารักขาก็ได้พาปธน.ทรัมป์กลับเข้ามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายรัสเซล วอท ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงบประมาณสหรัฐ ได้ถูกนำตัวออกจากห้องแถลงข่าวด้วยเช่นกัน
หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐได้ทวีตข้อความชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “เรากำลังสอบสวนเหตุการณ์ยิงกันซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขารายหนึ่ง โดยขณะนี้ชายผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งและเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขารายดังกล่าวได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ดี ผู้ก่อเหตุยิงครั้งนี้ไม่สามารถบุกเข้าพื้นที่ทำเนียบขาวได้ และไม่มีบุคคลในทำเนียบขาวคนใดได้รับอันตราย”
นอกเหนือจากการแถลงถึงปัจจัยบวกจากการขยายเวลาการให้ความช่วยเหลือคนว่างงานแล้ว ปธน.ทรัมป์ยังได้กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาจัดประชุมกลุ่ม G7 หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย. นี้ และนับเป็นการเลื่อนกำหนดจัดงานออกไปอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เสนอว่าอาจจัดประชุมในเดือนก.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 63)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท, ประชุม G7, รัสเซล วอท, สตีเวน มนูชิน, โดนัลด์ ทรัมป์