นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น ตอบรับผลการเลือกตั้ง ทำให้ตลาดคาดหวังเชิงบวกกับนโยบาย ที่จะส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ยังต้องติดตามการจับมือกันระหว่างพรรคก้าวไกล และเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาล จะหนุน SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,600 จุดได้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550-1,555 จุด และแนวต้าน 1,575-1,580 จุด หากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน มีโอกาสขึ้นไปถึง 1,600 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวขึ้น ตอบรับผลการเลือกตั้ง โดยตลาดคาดหวังเชิงบวกกับนโยบายของพรรคอันดับ 1 และ 2 ที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาดูข่าวการจัดตั้งรัฐบาล หากมีการจับมือกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย มอง SET มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,600 จุดในวันนี้
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องติดตามการหารือเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้สหรัฐอีกครั้งในสัปดาห์นี้ และการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ให้แนวรับไว้ที่ 1,550-1,555 จุด และแนวต้าน 1,575-1,580 จุด หากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน มีโอกาสขึ้นไปถึง 1,600 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (12 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,300.62 จุด ลดลง 8.89 จุด หรือ -0.03%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,124.08 จุด ลดลง 6.54 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,284.74 จุด ลดลง 43.76 จุด หรือ -0.35%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,547.04 จุด เพิ่มขึ้น 158.74 จุด หรือ +0.54% , ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,525.06 จุด ลดลง 102.18 จุด หรือ -0.52% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,269.88 จุด ลดลง 2.48 จุด หรือ -0.07%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 พ.ค.66) 1,561.35 จุด ลดลง 6.05 จุด (-0.39%) มูลค่าการซื้อขาย 57,109.23 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,334.46 ล้านบาท (12 พ.ค.66)
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (12 พ.ค.66) ลดลง 83 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 70.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 พ.ค.66) อยู่ที่ 4.62 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.75 แข็งค่าสวนทางภูมิภาค รับผลเลือกตั้งชัดเจน จับตา GDP ไทยเช้านี้
– “ก้าวไกล” เฉือน “เพื่อไทย” คว้าชัยชนะเลือกตั้ง จากผลนับคะแนน กกต.99% โดยส.ส.แบ่งเขต พรรคก้าวไกล 113 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 111 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 68 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ 39 ที่นั่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ 23 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 22 ที่นั่ง ส่วนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคก้าวไกล 14,031,418 คะแนน พรรคเพื่อไทย 10,666,830 คะแนน พรรครวมไทยสร้างชาติ 4,666,641 คะแนน พรรคภูมิใจไทย 1,114,356 คะแนน
– ทุกพรรคลุ้นคะแนนจริง ก่อนกำหนดเงื่อนไขร่วมรัฐบาล “พิธา” พอใจก้าวไกลแลนด์สไลด์กทม.มั่นใจทะลุ 100 ที่นั่ง หวังจับมือ “เพื่อไทย” โดยยึดหลักพรรคอันดับ 1 ได้สิทธิก่อน เล็งทำ “เอ็มโอยู” ปิดทางพลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ ย้ำมีลุงไม่มีเรา “รทสช.” รอคะแนนจริง ชี้วัด “ประยุทธ์” ได้ไปต่อหรือไม่
– เอกชน ชี้ ประชาชนตื่นตัว หวังหลังการเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักธุรกิจ หวังได้คนเก่งร่วมรัฐบาล วางนโยบายเศรษฐกิจ เดินหน้าประเทศ แนะเร่งขยายการส่งออก เปิดเอฟทีเอใหม่ ดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ลดต้นทุนทางธุรกิจ
– ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.66 ประเมินว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจสูงถึง 20,000-30,000 ล้านบาท จากภาพรวมที่เคยประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจทั้งหมด 50,000-60,000 ล้านบาท และเมื่อเกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยแน่นอน
หุ้นเด่นวันนี้
– BH (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 255.00 บาท คาดรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติจะฟื้นแรงหลังเทศกาลรอมฎอน (สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย) คาดไตรมาส 2/66 อาจไม่แผ่วตาม Seasonal อย่างที่หลายคนเคยประเมิน นักท่องเที่ยวต่างชาติ (Medical Tourism) ไหลเข้าไทยต่อเนื่อง ประเมินรายได้รวมปี 2566 โตไม่น้อยกว่า 6.4%YoY แนะนำทยอยซื้อสะสมอีกครั้ง เก็งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อล้อไปกับ Flow ของนักลงทุนต่างชาติและกองทุนที่จะกลับมาซื้อหลังทราบผลเลือกตั้ง (Post Election Rally) DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2566-2567 ที่ 5.27 พัน ลบ. และ 5.76 พัน ลบ. +6.7%YoY และ +9.4%YoY ตามลำดับ
– TOA (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท กำไรไตรมาส 1/66 ออกมาที่ 632 ลบ. +121% q-q, +54% y-y ดีกว่าคาด 22% และสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส หนุนจากยอดขายในไทยและ Gross Margin ที่สูงปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง กำไรในไตรมาส 1/66 คิดเป็น 29% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2023 ที่ 2.2 พันลบ. +33% y-y เราคาดเห็นกำไร 2Q23 เติบโต y-y แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล