สิงคโปร์ – อินโดฯ ร่วมประณามเหตุโจมตีขบวนรถมนุษยธรรมในเมียนมา ก่อนประชุมอาเซียน

สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานว่า วิกฤตในเมียนมาและการโจมตีขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) กลายเป็นประเด็นร้อนที่เบียดบังหัวข้อการประชุมสุดยอดของกลุ่มอาเซียนในสัปดาห์นี้ โดยอินโดนีเซียและสิงคโปร์ต่างประณามการใช้ความรุนแรง

ผู้นำประเทศ 8 คน จาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน เตรียมหารือร่วมกันในการประชุมสุดยอด 2 วัน ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ที่รีสอร์ท ในเมืองลาบวน บาโจ บนเกาะฟลอเรส ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ซึ่งบรรดาผู้นำของรัฐบาลทหารของเมียนมาไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ส่วนประเทศไทยซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์นี้ (14 พ.ค.) จะมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุม

อินโดนีเซีย ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาเซียนและเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ได้ประกาศหัวข้อการประชุม คือ “เรื่องราวของอาเซียน: จุดศูนย์กลางของการเติบโต (ASEAN Matters: Epicentrum of Growth)”

ในขณะที่ประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้อยู่ที่เรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ประเด็นของเมียนมาได้กลายเป็นประเด็นใหญ่ในการหารือ ก่อนที่การประชุมสุดยอดจะเริ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญ 3 ประการของรัฐบาลอินโดนีเซีย ในการจัดการกับเมียนมา ได้แก่ การยุติความรุนแรง การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ พร้อมเสริมว่า “การคว่ำบาตรไม่ใช่ทางออก” และเสริมว่าต้องการให้เมียนมาเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเจรจาเหล่านี้

ต่อมาในวันที่ 8 พ.ค. ปธน.วิโดโด เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ที่กำลังนำส่งความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอาเซียนถูกโจมตี โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ปธน.วิโดโด กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่เมืองลาบวน บาโจในระหว่างการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดว่า “ผมขอเน้นย้ำว่าการโจมตีดังกล่าว ไม่อาจขัดขวางอาเซียนและอินโดนีเซียจากการเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรง และหยุดการใช้กำลัง” พร้อมเน้นย้ำอย่างหนักแน่นว่า “ไม่มีใครจะชนะในสถานการณ์นี้”

ด้านกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ 2 คน จากสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ในเมืองย่างกุ้งอยู่ในขบวนรถที่ถูกโจมตีในรัฐฉาน ทางตะวันออกของเมียนมา แต่เจ้าหน้าที่ทั้งสองปลอดภัยดี ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศกล่าวกับสื่อว่า “สิงคโปร์ขอประณามการโจมตีครั้งนี้”

โฆษกกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า “สิงคโปร์ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายละเว้นการใช้ความรุนแรง ตามฉันทามติ 5 ประการ” โดยอ้างถึงแผนแนวทางการฟื้นฟูสันติภาพที่เห็นพ้องต้องกันอย่างกว้างขวางระหว่างผู้นำอาเซียนและพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ณ กรุงจาการ์ตา เมื่อปี 2564

“มีเพียงการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักทั้งหมดในเมียนมาเท่านั้น ที่สามารถเปิดทางไปสู่การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวเมียนมา” โฆษกกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top