IMF เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียโต 4.6% ปีนี้ แต่ไทยถูกหั่นโตเหลือ 3.4%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นหลัก ๆ จะได้รับแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่นในอินเดีย ขณะที่พื้นที่อื่น ๆ ของโลกมีแนวโน้มเผชิญภาวะเศรษฐกิจเติบโตแบบชะลอตัวจากผลพวงของการคุมเข้มนโยบายการเงินและกรณีที่รัสเซียยกพลบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาคประจำเดือนพ.ค.ที่มีการเผยแพร่ในวันนี้ (2 พ.ค.) IMF คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวที่ 4.6% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

IMF ระบุว่า การเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจครั้งนี้จะทำให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขยายตัว 3.8% ในปี 2565

“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากที่สุดในโลกในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งจากจีนและอินเดีย” IMF ระบุ

“จีนและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ที่สุด มีแนวโน้มที่จะคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ขณะที่พื้นที่ที่เหลือของเอเชียแปซิฟิกจะคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในห้า”

เมื่อเทียบเป็นรายประเทศ IMF ได้เพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้สำหรับจีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และลาวสู่ 5.2%, 4.5%, 6% และ 4% ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน IMF ได้ลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียในปีนี้ลงสู่ 5.9% ซึ่งลดลง 0.2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

แม้ IMF จะมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่ก็ได้ลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

“อุปสงค์ต่างประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นจากจีนจะช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่ปัจจัยเชิงบวกดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะถูกบั่นทอนจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศอื่น ๆ” IMF ระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชีย ซึ่งไม่นับรวมจีนและอินเดีย “มีแนวโน้มที่จะแตะจุดต่ำสุดในปี 2566”

IMF ลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2566 สำหรับญี่ปุ่นสู่ 1.3% โดยลดลง 0.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง “อุปสงค์ต่างประเทศและการลงทุนที่อ่อนแอลง รวมถึงผลกระทบจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565”

นอกจากนี้ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงสู่ 3.4% ซึ่งลดลง 0.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค. 2565 ส่วนในปี 2567 นั้น IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของไทยจะเติบโต 3.6% ซึ่งเท่ากับที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

ส่วนเศรษฐกิจในอาเซียนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวลดลงจาก 5.7% ในปี 2565 สู่ 4.6% ในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยในมาเลเซียและไทย การคุมเข้มนโยบายการเงินในฟิลิปปินส์ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงในอินโดนีเซียและมาเลเซีย และอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอลงจากสหรัฐและยุโรป

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top