เลือกตั้ง’66:ภท.หนุนตั้งองค์กรกิจการฮัจญ์หาเสียงกลุ่มมุสลิม

นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญกับพี่น้องมุสลิม เรามีรัฐมนตรี 1 คนที่เป็นมุสลิม เรามี ส.ส.ที่เป็นมุสลิมหลายคน และวันนี้ในเขตเลือกตั้งที่มีพี่น้องมุสลิม เราหวังว่าจะได้กลับมาทำหน้าที่ในสภา เพื่อเป็นปากเสียงให้พี่น้องมุสลิม ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ได้อย่างเต็มที่สมบูรณ์ตามหลักศาสนาอิสลาม

หลังการเลือกตั้งถ้าเราได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลส่งเสริมกิจการฮัจญ์ เพื่อไม่ให้มีหน่วยงานที่ไม่เหมาะสมเข้ามาบริหารจัดการทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น พรรคมีความเป็นหนึ่งเดียวกับพี่น้องมุสลิม ให้เกียรติพี่น้องของเราในการทำหน้าที่เป็นตัวแทน หลายสิ่งหลายอย่างที่เราตั้งใจทำต่อพี่น้องมุสลิมถูกบิดเบือนหลายเรื่อง อาทิ นโยบายกัญชาที่เราตั้งใจเอาพืชที่ทรงคุณค่ามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เรามุ่งหวังที่จะช่วยประชาชนหลายล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงยาแผนปัจจบัน แต่วันนี้มีคนเอาไปบิดเบือนว่าให้ใช้เสรี ทั้งที่เรามีกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขคุมเข้มอยู่ และในสภาครั้งที่แล้วเราเสนอกฎหมายขึ้นมาเพื่อควบคุมกำกับ แต่ถูกเตะสกัดโดยพรรคการเมืองอื่น

“วันที่ 14 พ.ค.นี้เป็นวันเลือกตั้ง พี่น้องอยากได้ ส.ส.ในเขตของท่านอย่างไร เราเสนอบุคคลที่มีความเหมาะสมให้ นอกจากเลือกส.ส.เขตแล้ว ท่านต้องเลือกนายกรัฐมนตรี วันนี้มีหลายท่านเสนอตัวเป็นนายกฯ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ เพราะท่านเหมาะสมเข้าใจการบริหารงานภาครัฐ เป็นรองนายกฯ แก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งในวัย 56 ปี ถือว่ากำลังหนุ่มมีความเหมาะสม จึงขอฝากพี่น้องทั้งเขตและพรรค” นายศุภชัย กล่าว

ด้าน น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ แกนนำพรรค กล่าวว่า เราไม่ได้เป็นผู้รู้ แต่เป็นผู้ใฝ่หาความรู้ว่าทำอย่างไรมุสลิมจะได้ประโยชน์ในสิ่งที่เป็นข้อจำกัดของมุสลิม ซึ่งการทำงานของพรรคภูมิใจไทยไม่เคยแบ่งแยกว่ามุสลิมห้ามเป็นรัฐมนตรี แต่พรรคภูมิใจไทยต่อสู้ที่จะได้มุสลิมมาเป็นรัฐมนตรี

ขณะที่ นายมณฑล โพธิ์คาย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตประเวศ-สวนหลวง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงที่มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พบว่าประชาชนเข้าใจนโยบายของพรรคที่สนับสนุนเพื่อใช้กัญชาทางการแพทย์และเศรษฐกิจ โดยไม่ได้มีปัญหาหลังมีฝ่ายการเมืองพยายามบิดเบือนว่าสนับสนุนให้ใช้กัญชาเสรี นอกจากนี้ประชาชนยังมั่นใจนโยบายต่างๆ ของพรรค หลังจากตนลงพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอด 4 ปี โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ตนทำงานตลอด 7 วัน 24 ชม. ตนจึงมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการทำงานมากกว่ากระแสซึ่งจับต้องไม่ได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top