หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ามีโอกาสปรับลงตามตลาดตปท.จากความกังวลภาคธนาคารสหรัฐ

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสอ่อนตัวลง เป็นไปตามบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นในต่างประเทศ จากความกังวลหลังธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ รายงานว่าเงินฝากไหลออกมากถึง 1.045 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งราคาน้ำมันยังปรับตัวลง และวานนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของไทยปีนี้เหลือโต 3.6% ด้วย ขณะที่วันนี้และติดตามตัวเลขการส่งออกของไทยโดยคาดว่าจะออกมาติดลบ ให้แนวรับไว้ที่ 1,535-1,520 จุด และแนวต้าน 1,550 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ ตามบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นในต่างประเทศ จากความกังวลลูกค้าธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่าคาดในไตรมาส 1/66 ทำให้ยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ 1.450 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวลง โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัว,การแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่ง

รวมถึงวานนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของไทยปีนี้เหลือโต 3.6% จากเดิมคาด 3.8% รับผลภาคส่งออกที่คาดว่าจะหดตัว 0.5% จากความเสี่ยงเศรษฐกิจและการค้าโลก จากก่อนหน้าคาดว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวได้เล็กน้อย

ส่วนวันนี้ให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของไทย คาดว่าจะออกมาติดลบ 10-15%

ให้แนวรับไว้ที่ 1,535-1,520 จุด และแนวต้าน 1,550 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,530.83 จุด ร่วงลง 344.57 จุด หรือ -1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,071.63 จุด ลดลง 65.41 จุด หรือ -1.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,799.16 จุด ร่วงลง 238.05 จุด หรือ -1.98%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,478.52 จุด ลดลง 141.55 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,520.97 จุด ลดลง 96.91 จุด หรือ -0.49% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,255.22 จุด ลดลง 9.65 จุด หรือ -0.30%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 เม.ย.66) 1,540.20 จุด ลดลง 17.67 จุด (-1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 46,215.92 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,715.17 ลบ. เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 เม.ย.) อยู่ที่ 2.79 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.34 ตลาดกลับมากังวลปัญหาภาคธนาคารสหรัฐ-รอดูตัวเลขส่งออกไทย
  • คลัง หั่นจีดีพีปี 66 เหลือ 3.6% ส่งออกติดลบ 0.5% เซ่นพิษเศรษฐกิจโลก ฮึมพรรคการเมืองปูดนโยบายใช้เงินมือเติบ หวั่นแหกคอกกู้กลายเป็นภาระลูกหลาน ด้าน สอท.มั่นใจยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ฉลุย 1.95 ล้านคัน
  • ครม.เคาะงบกลางช่วยค่าไฟ 1.1 หมื่นล้าน คลอด 2 มาตรการดูแลช่วง พ.ค.-ส.ค. ส่วนแรกลดค่าเอฟที กลุ่มใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย อีกกลุ่มช่วยผู้ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย เดือน พ.ค.ช่วยครัวเรือนละ 150 บาท เตรียมส่ง กกต. ด้านสำนักงบฯ เผยงบกลางเหลือ 30% พอเจียดช่วยอุ้มค่าไฟได้ “กฟผ.” ยันรับภาระหนัก 1.5 แสนล้าน ไหวแค่ 7 สตางค์ นายกฯ ยืนยันไฟสำรองของไทยไม่ล้น ไฟสำรองอยู่ที่ 36%
  • ปลัด สธ.ย้ำอย่ากังวลตัวเลขติดเชื้อ “โควิด” มากเกินไป ผู้เชี่ยวชาญชี้ “โควิด” คล้าย “ไข้หวัดใหญ่” กลายพันธุ์เหมือนกัน ต้องฉีดวัคซีนป้องกัน ขณะที่ไทยพบสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 เพิ่มอีก 6 ราย ส่วนกรณีชาวเมียนมาเสียชีวิตตรวจพบเป็นสายพันธุ์ XBB.1.16.1 ไม่เคยได้รับวัคซีน “หมอโอภาส” เผยเริ่มเห็นเคสโควิดนอนไอซียูเพิ่มขึ้น
  • เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร รับมีปัญหาที่ซูดาน ยันส่งบัตรกลับมาทัน 9 พ.ค. ก่อนนับวันที่ 14 พ.ค. ไม่มีปัญหาซ้ำรอยเดิม ส่วนบัตร มีระบบป้องกันการปลอม เผยพบเฟกนิวส์น้อยกว่าครั้งก่อน ย้ำเช็กคุณสมบัติ 130 ผู้สมัคร ส.ส.เข้ม ลั่นใครถือหุ้นสื่อ โดนถอนสิทธิ์ ยังไม่เคาะกี่ราย เพื่อไทยโวย กกต. สะเพร่า บัตรเลือกตั้งต่างประเทศผิดพลาด ภาพสลับผู้สมัครพรรคอื่น จี้รับผิดชอบ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MGC (ฟินันเซีย ไซรัส) ให้ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท หุ้น บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC เข้าเทรดวันนี้วันแรก เป็นตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ Rolls-Royce BMW MINI บิ๊กไบค์ และมารีน พร้อมกับธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น ศูนย์บริการ บริการเช่ารถยนต์ สินเชื่อ และประกัน จุดเด่นคือการสร้าง Ecosystem และ Synergy แต่ละธุรกิจ ประเมินกำไรปี 66 โตแกร่ง +21% y-y หนุนจากยอดขายรถยนต์ในประเทศฟื้น +3.6% y-y รวมถึงเริ่มธุรกิจใหม่ เช่น ตัวแทนขายเรือแม่น้ำ ธุรกิจสินเชื่อ รวมถึงการขยายสาขาตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ
  • RBF (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ “ซื้อ” เป้าหมาย 13.50 บาท คาดกำไร Q1/66 ที่ 145-150 ลบ. ดีกว่าคาดการณ์เดิมจากมาร์จิ้นฟื้นดีกว่าคาด +55% q-q, -8% y-y ต้นทุนวัตถุดิบลดลง และ Product Mix รายได้สินค้ากลุ่ม Flavor & Fragrance กลับมาฟื้นตามกลุ่มเครื่องดื่มเพราะเริ่มออกสินค้าใหม่มากขึ้นหนุนรายได้รวม และจะรับรู้รายได้จากอินเดียเพิ่มขึ้น คาดหวังฟื้นตัวของกำไรต่อใน Q2/66 และ H2/66 ล่าสุดซื้อที่ดินในอินเดียแล้วอยู่ระหว่างออกแบบเตรียมสร้างโรงงานคาดเสร็จ H1/67 เร็วกว่าเคยคาดและจะเป็น Key Driver สำหรับการเติบโตในปี 67-68
  • SCGP (ดาโอ) แนะ”ซื้อเก็งกำไร” เป้าหมาย 58 บาท กำไร Q1/23 ฟื้นตัวเด่นตามคาด แนวโน้มฟื้นตัวต่อ พร้อมปิด Deal เวียดนามเพิ่ม ราคาหุ้นปรับลดลง -10% ใน 1 เดือนที่ผ่านมาสวนทางกับแนวโน้มผลประกอบการที่เริ่มดีขึ้น คาด Q2/66 ยังฟื้นตัวต่อ Demand ค่อยๆ ฟื้น ในขณะที่ต้นทุนของเศษกระดาษ ต้นทุนพลังงาน และต้นทุนค่าขนส่ง ซึ่งช่วยเพิ่ม Gross Margin

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top