![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2023/04/0CF2D9462306082FA3D580CF0B5BE5CD.jpg)
นายทศพร นิลกำแหง นายกสมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา รวมตัวองค์กรธุรกิจระดับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพืชกัญชงและกัญชา ทั้งในส่วนฟาร์มปลูก โรงงานสกัด และโรงงานผลิตอาหารและยา จัดตั้งสมาคมฯ เพื่อสร้างมาตรฐานสินค้าที่มีส่วนผสมของสารสกัด CBD จากพืชกัญชงคุณภาพสูง ร่วมกันควบคุมคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การสกัด ไปจนถึงการผลิตสินค้าสำเร็จรูป และตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้กำหนดมาตรฐานสินค้า CBD ในระดับโลก
ขณะนี้สมาคมฯ มีความร่วมมือกับบริษัทกว่า 20 แห่ง มีการร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชงกัญชาแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท
และอีกหนึ่งเป้าหมายหลัก คือการส่งเสริมการให้ความรู้แก่สังคมในคุณประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพของสารสกัด CBD จากพืชกัญชง และสารสกัด THC จากพืชกัญชา และยืนยันไม่สนับสนุนให้ใช้พืชกัญชงและกัญชาเพื่อการสันทนาการ พร้อมร่วมมือกับภาครัฐในการปลดล็อกข้อกฎหมายที่ซับซ้อน เพื่อให้สารสกัด CBD และ THC ถูกใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์อย่างแท้จริง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินตามสิ่งที่ได้แถลงไว้ในนโยบาย คือทำให้กัญชาพ้นจากการเป็นยาเสพติด และทำให้คนเข้าถึงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ขณะนี้ พรรคฯ ทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์ กัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดอีกต่อไป ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เครื่องใช้อุปโภค-บริโภคในครัวเรือน สามารถใช้ในธุรกิจได้ ในกรอบกฎหมายกระทรวงสาธารณสุข
นายอนุทิน กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยจะมีไม่มีนโยบายเรื่องกัญชาแล้ว แต่ยังคงเดินหน้าผลักดันกฎหมายที่ค้างอยู่ในสภาฯ ต่อไป สำหรับปีนี้จะเดินหน้าผลักดันนโยบายโซลาร์เซลล์ และเรื่องอื่นๆ ต่อไป
“4 ปีอยู่กระทรวงสาธารณสุข หลังจากนี้ จะไม่กลับมาแล้ว ถ้าได้กลับมา จะไปอยู่กระทรวงอื่น อีกหน่อยได้ดิบได้ดีขึ้นมา ถ้าอยู่กระทรวงเดียว คนก็บอกไม่มีประสบการณ์ บทบาทตอนนี้หมดแล้ว ผู้ประกอบการต้องดำเนินการต่อ ตอนนี้คนที่เสียประโยชน์จากนโยบายกัญชา ไม่ใช่พรรคฯ แต่คือผู้ที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชา ซึ่งตอนนี้เหลือพรรคเดียวแล้ว ที่เอาเรื่องนโยบายกัญชา” นายอนุทิน กล่าว
![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2023/04/20BDFC0A35C7501F33EC77406530D500.jpg)
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า เรื่องที่ค้างคือการนำกัญชาสร้างได้ทางเศรษฐกิจ โดยพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ยังคงค้างอยู่ในสภาฯ พรรคฯ จะมีการผลักดันให้ผ่านต่อไป
สำหรับนโยบายของพรรคฯ คือ เปิด Health and Wellness Center สำหรับผู้สูงอายุชาวต่างชาติ ซึ่งว่าเชื่อต่างชาติเข้ามาใช้เงินในไทยกว่า 3-4 แสนล้านบาท และสร้างงานให้คนไทยได้หลายแสนล้านคน ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดกัญชาโลก มีมูลค่าประมาณ 8 แสนล้านบาท โดยหอการค้าไทยรายงานว่า ในปี 65 มีเงินหมุนเวียนในระบบจากการใช้กัญชาประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่ามีเงินมากกว่านั้น
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ เปิดเผยว่า ในขณะที่กัญชาเป็นยาเสพติด ประเทศไทยมีประชากรใช้กัญชาทางการแพทย์ทั้งหมด 3.85 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ มีผู้ที่ใช้กัญชานอกระบบสาธารณสุขถึง 3.6 ล้านคน และใช้ในโรคที่ไม่อยู่ในข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศไว้ (ผิดกฎหมาย) 3.2 ล้านคน เนื่องจากแพทย์ไม่จ่ายยาให้
ขณะที่ผลการศึกษาของศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติด พบว่า กลุ่มที่ใช้กัญชา สามารถลดการใช้ยาแผนปัจจุบัน รวมถึงเลิกยาแผนปัจจุบันได้ 58%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 66)
Tags: กัญชง, กัญชา, ทศพร นิลกำแหง, ศุภชัย ใจสมุทร, อนุทิน ชาญวีรกูล