นักวิเคราะห์คาดบริษัทมะกันกำไรทรุดหนักสุดนับตั้งแต่ล็อกดาวน์โควิด

สำนักข่าววอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า บริษัทสหรัฐทำกำไรลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่โรคโควิด-19 ระบาด เนื่องจากเงินเฟ้อสูงฉุดกำไรและความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยบั่นทอนอุปสงค์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยแฟ็กต์เซ็ต (FactSet) ว่า กลุ่มบริษัทบนดัชนี S&P500 ของตลาดหุ้นสหรัฐจะรายงานกำไรลดลง 6.8% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยจะถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปรับลดลงกว่า 30% ในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ก่อนที่จะถึงฤดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2566 ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยธนาคารรายใหญ่ 3 แห่งในวันศุกร์ที่ 14 เม.ย.นี้ ธุรกิจบางภาคส่วน เช่น พลังงานและสินค้าฟุ่มเฟือย มีแนวโน้มจะรายงานผลกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่อุปสงค์ที่ซบเซา แนวโน้มสินเชื่อที่ตึงตัวขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง ได้บั่นทอนคาดการณ์ผลกำไรของธุรกิจในภาพรวม

“เมื่อคุณพิจารณาต้นทุนด้านค่าจ้างและต้นทุนด้านเงินทุน ผมคิดว่าบริษัทตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการทำกำไรพอสมควร”

นายแจ็ก แอบลิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนบริษัทเครสเซ็ต แคปิตอล (Cresset Capital) ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top