ร้อนปรอทแตก! พรุ่งนี้บางนาทะลุ 50.2 องศา เตือนค่า UV สูง 25 จ.เลี่ยงออกแดด

กระทรวงสาธารณสุข เผย พยากรณ์อากาศ “ชลบุรี-บางนา” ค่าดัชนีความร้อนสูงถึง 49-50 องศาเซลเซียส เสี่ยงเกิดฮีทสโตรก ขณะที่ 25 จังหวัด ค่าดัชนีรังสียูวีอยู่ในระดับสูงจัด ทำผิวหนังเกรียมแดด ส่งผลเสียต่อดวงตา ทำลาย DNA ในระยะยาว แนะหลีกเลี่ยงออกแดด ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ไม่ต้องรอให้กระหาย หากเกิดอาการผิดปกติ ให้รีบปฐมพยาบาลทันที

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อน ทำให้กลางวันมีสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เป็นต้น เนื่องจากร่างกายจะขับความร้อนออกมาทางเหงื่อ ทำให้สูญเสียน้ำและเกลือแร่จำนวนมาก เกิดอาการเพลียแดด หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคลมแดด หรือฮีทสโตรกได้

สำหรับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคฮีทสโตรก ดูจาก 1. มีอุณหภูมิร่างกายสูง 40.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป, 2. มีอาการผิดปกติทางสมอง เช่น สับสน เพ้อ เวียนศีรษะ ตอบสนองช้า หรือชัก, 3. อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศร้อน ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป และใช้ระยะเวลาจนเกิดอาการผิดปกติ ส่วนใหญ่การเสียชีวิตมักจะมีปัจจัยร่วมกับโรคอื่นๆ ด้วย เช่น โรคหัวใจ หรือภาวะความดันโลหิตสูง

 

พรุ่งนี้เขตบางนา กทม. ทะลุ 50.2 องศา

จากข้อมูลพยากรณ์ค่าดัชนีความร้อนสูงสุด ของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า วันที่ 5 เม.ย. 66 ภาคเหนือ ที่ จ.ตาก 41 องศาเซลเซียส, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ศรีสะเกษ 38.4 องศาเซลเซียส, ภาคกลาง เขตบางนา กทม. 45.5 องศาเซลเซียส, ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี 45.8 องศาเซลเซียส และภาคใต้ จ.พังงา 43.3 องศาเซลเซียส

ส่วนวันที่ 6 เม.ย. 66 ภาคเหนือ จ.เพชรบูรณ์ 40.6 องศาเซลเซียส, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ศรีสะเกษ 41.5 องศาเซลเซียส, ภาคกลาง เขตบางนา กทม. 50.2 องศาเซลเซียส, ภาคตะวันออก ที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี 49.4 องศาเซลเซียส และภาคใต้ จ.ภูเก็ต 47.9 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ สภาพอากาศที่ร้อนเกิน 41 องศาเซลเซียส จัดอยู่ในระดับอันตราย อาจทำให้มีอาการตะคริวที่น่อง ต้นขา หน้าท้อง หรือไหล่ ทำให้ปวดเกร็ง มีอาการเพลียแดด และอาจเกิดภาวะฮีทสโตรกได้

ดังนั้น ขอให้ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ หลีกเลี่ยงชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากต้องทำงานกลางแจ้งควรทำงานเป็นกลุ่ม และเมื่อเกิดอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว ให้รีบแจ้งบุคคลที่อยู่ใกล้เพื่อช่วยปฐมพยาบาลทันที

 

*3-9 เม.ย. ค่ายูวีสูง 25 จังหวัด แนะเลี่ยงออกแดด

นอกจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด อีกเรื่องที่ต้องระมัดระวังคือ รังสีอัลตราไวโอเลต (ยูวี) จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงวันที่ 3-9 เม.ย. 66 กรณีท้องฟ้าโปร่งเวลา 12.00 น. มี 25 จังหวัดที่มีค่าดัชนียูวีอยู่ในระดับสูงจัด (มากกว่า 11 ขึ้นไป) ซึ่งจะทำให้เกิดผิวหนังเกรียมแดด (Sun Burn) ส่งผลเสียต่อดวงตาได้ในเวลาไม่กี่นาที และระยะยาวจะทำลาย DNA ดังนี้

– ค่าดัชนียูวี 11 ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง หนองคาย สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี บุรีรัมย์ นครราชสีมา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และกาญจนบุรี

– ค่าดัชนียูวี 12 ได้แก่ กทม. จันทบุรี และชลบุรี

– ค่าดัชนียูวี 13 ได้แก่ จังหวัดตราด ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา และนราธิวาส

ดังนั้น ขอให้หลีกเลี่ยงการออกแดด โดยเฉพาะช่วงเวลา 09.00-15.00 น. หากจำเป็นควรใช้เวลาให้น้อยที่สุด สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายความร้อนได้ดี สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และทาครีมกันแดด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top