สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์สั่งให้กรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียงอีก 4 จังหวัดกลับมาใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดขึ้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 4 ส.ค. นี้เป็นต้นไป หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นเกิน 100,000 รายแล้ว
การออกคำสั่งของปธน.ฟิลิปปินส์มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้ อยู่ที่ 5,032 ราย ซึ่งเป็นสถิติการพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดของประเทศ โดยผู้ติดเชื้อกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 2,737 รายอยู่ในเขตเมโทรมะนิลา
นอกจากกรุงมะนิลาแล้ว ยังมีอีก 4 จังหวัดที่บังคับใช้มาตรการควบคุมโรคที่เรียกว่า “Modified Enhanced Community Quarantine” ตั้งแต่วันที่ 4-18 ส.ค. นี้ ได้แก่ จังหวัดบูลาคัน ลากูนา คาบีเต และรีซัล
ก่อนหน้านี้ พื้นที่ดังกล่าวมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะผ่อนปรนไปสู่มาตรการที่ใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเรียกว่า “General Community Quarantine” เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
ปธน.ดูเตอร์เตอธิบายว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดกับประเทศนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจร่วมด้วย
“พวกคุณเฝ้าบอกให้ผมล็อกดาวน์มะนิลาและเมืองอื่นๆ ในฟิลิปปินส์เพื่อจะได้ไม่มีการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น ปัญหาอยู่ที่ว่า เราไม่มีเงินแล้ว ผมไม่มีอาหารและเงินมาให้ประชาชนได้อีก” ปธน.ดูเตอร์เตกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 63)
Tags: COVID-19, ฟิลิปปินส์, ล็อกดาวน์, โควิด-19, โรดริโก ดูเตอร์เต