นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า กรณีมีข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 นั้นก็ดี แต่ตนยังไม่ทราบเลย
การเมืองตอนนี้เป็นระบอบประชาธิปไตย ไม่มีระบอบอื่น การเลือกตั้งในปี 66 เป็นการแข่งขันสร้างความชอบธรรมและความดีเพื่อให้ประชาชนเลือก ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
“นายกฯ จะไปลงอะไรก็แล้ว แต่เราไม่มีสิทธิไปก้าวก่าย เพราะอยู่คนละพรรค เราได้แต่ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และการเป็น ส.ส. ก็เป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติ และทำงานในสภา เราจะได้เข้าใจความต้องการของประชาชน” นายอนุทิน ระบุ
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้กำชับผู้สมัครของพรรค เรื่องกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เข้าใจกันหมดแล้ว ซึ่งตอนปฐมนิเทศได้ชี้แจงไปแล้วว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และหลีกเลี่ยงการกระทำอย่างไรบ้าง ซึ่งจะต้องไม่ทำสิ่งที่มีความสุ่มเสี่ยงหรือผิดกฎหมาย รวมถึงต้องไม่ทำสิ่งที่ผิดจริยธรรมด้วยการกล่าวให้ร้ายคู่แข่ง หรือสร้างข้อมูลเท็จต่างๆ ให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง ซึ่งพรรคได้แจ้งให้ผู้สมัครทุกคนรับทราบและปฏิบัติตามแล้ว
สำหรับเงื่อนไขและข้อผูกพันในการร่วมรัฐบาลต่อไปนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การทำงานจนครบวาระ 4 ปี ถือว่าราบรื่น แม้บางครั้งจะมีความเห็นขัดแย้งกันบ้าง แต่ก็สามารถแก้ไขปัญหาผ่านไปได้ หากสามารถกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลก็จะผลักดันสิ่งที่ค้างคาอยู่ให้เกิดผลสำเร็จ เช่น กฎหมายกัญชา ซึ่งเป็นเงื่อนไขแรกในการร่วมรัฐบาลหากพรรคภูมิใจไทยได้กลับมา
“หากพรรคฯ สามารถกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็จะผลักดันสิ่งที่ค้างคาอยู่ให้เกิดผลสำเร็จ เช่น กฎหมายกัญชา ซึ่งเป็นเงื่อนไขแรกในการร่วมรัฐบาลหากพรรคภูมิใจไทยได้กลับมา เพราะจะต้องมีกฎหมายกัญชา ไม่ใช่ใช้เกณฑ์การเมืองดึงให้กฎหมายไม่ผ่านเพราะไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุ
ส่วนการจับมือกับขั้วการเมือง ต้องดูผลการเลือกตั้งว่าแต่ละพรรคมีจำนวนที่นั่งในสภาเท่าไร ต้องเริ่มจากตรงนั้นก่อน เราใช้ผลงานเป็นตัวผลักดันสร้างคะแนนนิยม เราไม่เคยขัดแย้งกับใคร แต่ถ้าเรื่องเจตนารมณ์ แนวคิด หรืออุดมการณ์เป็นเรื่องหนึ่งที่จะต้องพิจารณาว่าเราจะไปด้วยกันได้หรือไม่
ส่วนความจำเป็นหากต้องเลือกระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร นายอนุทิน กล่าวว่า ในทางการเมืองเมื่อเข้าใกล้การเลือกตั้ง ทุกคนจะต้องใช้ผลการเลือกตั้งมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจทิศทางการเมืองของแต่ละพรรค ซึ่งผลการเลือกตั้ง ไม่ใช่มีแค่ว่าแต่ละพรรคจะได้เก้าอี้ ส.ส.เท่าไร แต่ยังมีเรื่องอุดมการณ์ที่จะต้องพิจารณาด้วยว่าจะไปกันได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายอนุทิน ได้ขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ประมาณ 10 นาที เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดนายกฯ ย้อนหลังเป็นการส่วนตัว และเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ขึ้นไปอวยพรวันเกิดให้นายกฯ เพราะเมื่อวาน (21 มี.ค.) ไม่มีโอกาสได้อวยพรท่าน เนื่องจากมีแขกมารอพบเยอะ โดยวันนี้ได้นำพวงมาลัยไปกราบอวยพร แต่ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง
ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบเหรียญเสมาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พิมพ์เลื่อนสมณศักดิ์ รุ่นชัยมงคล พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา แก่นายอนุทินเพื่อเก็บไว้บูชาด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 66)
Tags: การเมือง, พรรคการเมือง, พรรคภูมิใจไทย, อนุทิน ชาญวีรกูล, เลือกตั้ง