ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงไปแล้วกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคจากความวิตกการหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ขณะที่เกิดสัญญาณเทคนิคเป็นขาลงหลังจากร่วงหลุดแนวรับสำคัญเมื่อวานนี้
เมื่อเวลา 10.01 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,305.20 จุด ลดลง 10.54 จุด (-0.80%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.15 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,311.26 จุด ลดลง 4.48 จุด (-0.34%)
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบ แต่ก็มีหลายตลาดปิดทำการเนื่องในวันสำคัญทางศาสนา
โดยตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวลงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจากที่เยอรมนีประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/63 ออกมาไม่ดี และสหรัฐฯก็ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/63 ติดลบ 32.9% แม้ว่าจะดีกว่าตลาดคาดติดลบ 34% แต่ก็ถือว่าไม่ดี
ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังการลงทุน และควรรอให้มีการปรับฐานให้เสร็จก่อน อีกทั้งตอนนี้ก็อยู่ในช่วงการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย
ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจไม่ดีทำให้ไปกดดันความต้องการใช้น้ำมัน และส่งผลให้ราคาน้ำมันย่อตัวลง ทำให้หุ้นขนาดใหญ่โดนกดดัน อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ ซึ่งตลาดบ้านเราก็มีน้ำหนักจากหุ้นในกลุ่มพลังงานอยู่มาก อย่างไรก็ดีให้ติดตาม GDP ของฝั่งยุโรปต่อไป และติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของฝั่งยุโรปด้วย รวมถึงติดตามความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯ
ในทางเทคนิคเกิดสัญญาณ Sideway Down เป็นขาลงหลังหลุดแนวรับสำคัญ ซึ่งต่อไปก็จะมี Low เดิมที่ 1,306 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,325 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 63)
Tags: การลงทุน, ตลาดหุ้น, วิจิตร อารยะพิศิษฐ, หุ้นไทย, เศรษฐกิจ