แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ คลายกังวลปัญหาภาคธนาคาร-ลุ้นผลเฟด

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ สอดคล้องกับตลาดภูมิภาค จากนักลงทุนเชื่อมั่นต่อภาคธนาคารในฝั่งตะวันตกมากขึ้น จากแนวทางแก้ไขได้รับการตอบรับเชิงบวก ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น และดอลลาร์อ่อนค่า คาดส่งผลดีต่อหุ้น Big Cap แนะติดตามการประชุมเฟด คาดคงอัตราดอกเบี้ย ให้แนวรับไว้ที่ 1,567-1,561 จุด และแนวต้าน 1,587-1,593 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อภาคธนาคารในฝั่งตะวันตกมากขึ้น หลังแนวทางการแก้ไขปัญหาได้รับการตอบรับเชิงบวก ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ฟื้นตัวขึ้น ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง คาดจะหนุนหุ้นกลุ่ม Big cap ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามแนะติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 มี.ค.นี้ โดยจะทราบผลในช่วงเช้าของวันที่ 23 มี.ค. คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดคาดเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% หากผลออกมาตามคาด จะเป็นบวกต่อตลาด แต่หากผิดคาดหรือขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด จะเป็นลบต่อตลาด

ให้แนวรับไว้ที่ 1,567-1,561 จุด และแนวต้าน 1,587-1,593 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,560.60 จุด พุ่งขึ้น 316.02 จุด หรือ +0.98%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,002.87 จุด เพิ่มขึ้น 51.30 จุด หรือ +1.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,860.11 จุด เพิ่มขึ้น 184.57 จุด หรือ +1.58%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 27,298.15 จุด เพิ่มขึ้น 352.48 จุด หรือ +1.31%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,428.36 จุด เพิ่มขึ้น 169.6 จุด หรือ +0.88% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,263.41 จุด เพิ่มขึ้น 7.76 จุด หรือ +0.24%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 มี.ค.66) 1,577.18 จุด เพิ่มขึ้น 21.73 จุด (+1.40%) มูลค่าการซื้อขาย 53,360.42 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,068.69 ลบ.เมื่อวันที่ 21 มี.ค.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. (21 มี.ค.)พุ่งขึ้น 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 69.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 มี.ค.) อยู่ที่ 7.48 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.53 แนวโน้มอ่อนค่า ให้กรอบวันนี้ 34.40-34.60 ก่อนรู้ผลเฟดคืนนี้

– กระทรวงพลังงานเกาะติดปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลการเปลี่ยนแปลง ราคาน้ำมันตลาดโลกใกล้ชิด หลังเริ่มกลับมาผันผวนสูง รอเฟดชี้ชะตาดอกเบี้ยจะมีผลกระทบต่อตลาดทั้งบวกและลบ รับแม้ล่าสุดกองทุนน้ำมันฯ รีดดีเซลเข้ากองทุนฯแตะ 6 บาทต่อลิตร แต่ยังไม่แน่นอน สัปดาห์หน้าดีเซลจะลงต่อเป็นครั้งที่ 4 หรือไม่รอตลาดโลกชี้ชะตา

– หุ้นกู้ “เอที1” เครดิตสวิสป่วน พบ “20 กองทุนไทย” เข้าลงทุนทางอ้อมผ่าน มาสเตอร์ฟันด์ แต่ย้ำสัดส่วนลงทุนน้อย ผลกระทบจำกัด มั่นใจไม่เกิน “ฟันด์รัน” เหตุคุมความเสี่ยงได้ เผยเน้นขายกลุ่มนักลงทุนเฉพาะเจาะจงที่เข้าใจความเสี่ยงดี

– ม.หอการค้าไทย เผย เลือกตั้งเงินสะพัด 1.2 แสนล้าน ผลสำรวจภาคธุรกิจห่วงจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า กดดันเศรษฐกิจไปฟื้นตัวไตรมาส 4 แนะรัฐบาลใหม่ เข้ามาดูแลต้นทุนธุรกิจที่สูงขึ้น ทั้งค่าไฟ น้ำมัน ค่าแรง ดอกเบี้ย คาดจีดีพีเริ่มฟื้นไตรมาส 4 ทั้งปีโต 3-4% “สุพัฒนพงษ์” ยืนยันรัฐบาลไม่ปล่อยให้เกิดสุญญากาศการเมืองกระทบเศรษฐกิจ เร่งเบิกจ่ายดันงบ พร้อมมีมาตรการดูแลพลังงาน

– ธปท” ออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงิน ปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนของมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (สินเชื่อฟื้นฟู) ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2566 ที่เห็นชอบให้ขยายอายุมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจออกไปเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือแก่ภาคธุรกิจภายใต้มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูและมาตรการสินเชื่อเพื่อการปรับตัว

 

หุ้นเด่นวันนี้

– บมจ. อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์ประเภท IET พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 22 มี.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 810 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ITTHI” ราคา IPO ที่ 3.00 บาท

– TOP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า BB Consensus 64.25 บาท ราคาหุ้นลดลงสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ค่าการกลั่นทยอยฟื้นตัว ราคาน้ำมันดิบทยอยปรับขึ้น ทำให้ความเสี่ยงจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบลดลง




โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top