หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลงหนัก นำโดย KBANK ลดลง 1.89% หรือลบ 2.50 บาท มาที่ 129.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,703.26 ล้านบาท
BBL ลดลง 1.95% หรือลบ 3.00 บาท มาที่ 150.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,776.50 ล้านบาท
SCB ลดลง 0.99% หรือลบ 1.00 บาท มาที่ 100.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,694.95 ล้านบาท
KKP ลดลง 1.17% หรือลบ 0.75 บาท มาที่ 63.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 368.05 ล้านบาท
TTB ลดลง 1.48% หรือลบ 0.02 บาท มาที่ 1.33 บาท มูลค่าซื้อขาย 380.92 ล้านบาท
TISCO ลดลง 0.50% หรือลบ 0.50 บาท มาที่ 100.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 449.87 ล้านบาท
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยปรับลง จากประเด็นกรณีมีการเทขาย ตราสารทางการเงินที่นับเป็นกองทุนสำรองส่วนเพิ่มชั้นที่ 1 (Additional Tier 1 หรือ AT1) ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน US$275bn หลังผู้ถือ AT1 ของเครดิตสวิส (CS) ไม่ได้รับสิทธิในการเรียกร้องเลย (มูลค่า 1.7 หมื่นล่านเหรียญ) ทั้งที่ผู้ถือหุ้นสามัญยังได้รับเงินคืนบ้าง (3.25 พันล้านเหรียญ) เรามองว่ามีผลจำกัดต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย เนื่องจาก
1.ธนาคารไทยมีเงินกองทุนสำรองชั้นที่ 1 (Core Tier I) ที่สูงอยู่แล้ว
2.ธนาคารไทยส่วนมี AT1 เพียง 3% ของเงินกองทุน
3.แม้ราคา AT1 ในตลาดของธนาคารจะปรับตัวลดลง แต่ไม่ต้อง mark to market เพราะธนาคารเป็นผู้ออกตราสาร มิใช่ผู้ถือตราสารดังกล่าว
คำแนะนำระหว่างความผันผวนทยอยหาจังหวะลงทุนเพิ่มในธนาคารที่เรามองว่าปลอดภัย BBL KTB TTB TISCO (สำหรับ dividend play และ low beta)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มี.ค. 66)
Tags: BBL, KBANK, SCB, กลุ่มแบงก์, ตราสารหนี้, ธนาคารพาณิชย์, หุ้นกลุ่มแบงก์, เครดิต สวิส