นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) เปิดเผยว่า คณะกรรมการมีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (PAR) โดยแบ่งแยกมูลค่าที่ตราไว้ (split par) จากมูลค่าพาร์เดิม 5.00 บาท/หุ้น เป็นมูลค่าพาร์ใหม่ที่ 1.00 บาท/หุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นของบริษัทฯได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
สำหรับปี 66 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายที่ชื่อว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นไม่แพ้ปี 65 โดยเฉพาะธุรกิจลีสซิ่งมอเตอร์ไซค์ที่ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำตลาดและมีพันธมิตรดีลเลอร์ทั่วประเทศที่แข็งแกร่ง ช่วยสนับสนุนให้พอร์ตเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์โตต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ P Loan ที่บริษัทได้เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ ช่วยขยายฐานลูกค้าของบริษัท ถือเป็นปัจจัยหนุนของกลุ่มธุรกิจนี้ได้เช่นกัน
นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 66 ออกมาเติบโตโดดเด่น ทั้งนี้เรากำลังเร่งศึกษาและหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจเพื่อเพิ่มพอร์ตสินเชื่อที่มีอยู่ให้เติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้น SCAP และผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว
ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,779.10 ล้านบาท เติบโต 44 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,624.46 ล้านบาท สนับสนุนให้มีกำไรสุทธิ 1,137 ล้านบาท โดยภาพรวมการเติบโตของการดำเนินธุรกิจในปี 65 เกิดจากการควบรวมกิจการนำมา ซึ่งการดำเนินธุรกิจใหม่ของบริษัท คือธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่และสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างดี สะท้อนจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ตลอดทั้งปีเกินเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อรวมปี 65 อยู่ที่ 21,073.59 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 107.63% และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ไตรมาส 4/65 กำไรสุทธิอยู่ที่ 303.33 ล้านบาท เติบโต 10.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,233.00 ล้านบาท เติบโต 95.21% เนื่องจากบริษัทออกแคมเปญส่งท้ายปีสนับสนุนให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานตลอดทั้งปีอยู่ในทิศทางบวก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 66)
Tags: SCAP, วิชิต พยุหนาวีชัย, ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล, สินเชื่อรายย่อย, หุ้นไทย