นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทเดินหน้านำระบบ GPS Tracking และ IoT Solution ไปขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งคาดว่า จะเห็นความชัดเจนในไตรมาสแรกของปีนี้ สำหรับในประเทศ DTCENT ได้มีการพัฒนาระบบ GPS Tracking ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ IoT Solution และ ระบบ AI อย่าง BAMS (Business Activity Management System) ขณะนี้ อยู่ระหว่างการทดสอบการใช้ระบบ และคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้ภายในไตรมาส 1/66 รวมทั้ง ระบบบริหารจัดการน้ำ, ระบบ SMART CITY SOLUTION หรือระบบบริหารการจัดการองค์กรส่วนท้องถิ่น เพื่อรองรับโครงการของภาครัฐที่เริ่มทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และระบบ BIM (Building Information Modeling), EV Platform, Logistics Demand-Supply Matching Platform ซึ่งคาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
สำหรับความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) วางแผนที่จะพัฒนาให้บริษัทฯ เป็น Tier 1 Supplier ในงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้เพิ่มขึ้น ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ขณะนี้ ร่วมวางแผนงานการดำเนินธุรกิจ ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) และพัฒนาผลิตภัณฑ์ Supply Chain Solutions ใหม่ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้กับบริษัทฯ
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักในรูปแบบการทำ M&A กับบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว จึงมั่นใจว่าปัจจัยเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ที่ระดับ 10-15% จากปีก่อน
ส่วนผลการดำเนินงานปี 65 มีรายได้รวม 641.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.46% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 591.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.98 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการให้บริการใช้ระบบติดตามยานพาหนะ โดยรายได้ในส่วนนี้จะเติบโตสอดคล้องกับจำนวนฐานลูกค้าที่ใช้บริการอุปกรณ์ติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking)
“ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทยังสามารถทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ การท่องเที่ยวกลับมา มีการเดินทาง การขนส่งสินค้ามากขึ้น จึงทำให้ลูกค้าและคู่ค้า กลับมาดำเนินธุรกิจและใช้ระบบ GPS Tracking ของ DTCENT เพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 66)
Tags: DTCENT, ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์, ทศพล คุณะเพิ่มศิริ, ผลประกอบการ, หุ้นไทย