สำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐ (NHTSA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) ว่า บริษัทเทสลาประกาศเรียกคืนรถยนต์จำนวนมากถึง 362,000 คันในสหรัฐ เนื่องจากพบว่าซอฟต์แวร์ “Full Self-Driving Beta” หรือ FSD Beta อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชน
NHTSA ระบุว่า ซอฟต์แวร์ FSD Beta ของเทสลาปล่อยให้รถขับเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด หรือขับผ่านสี่แยกในลักษณะที่ผิดกฎหมายหรือคาดการณ์ไม่ได้จนอาจเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุรถชน
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เทสลาจะอัปเดตซอฟต์แวร์ดังกล่าวแบบ OTA โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และเทสลาเปิดเผยว่ายังไม่มีรายงานอุบัติเหตุหรือการเสียชีวิตจากปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ รถเทสลาที่ถูกเรียกคืนจะรวมถึง Model S ปี 2559-2566, Model X, Model 3 ปี 2560-2566 และ Model Y ปี 2563-2566 ทั้งหมดที่มีซอฟต์แวร์ FSD Beta หรือที่กำลังจะติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าว
NHTSA เตือนว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการละเมิดกฎหมายจราจรท้องถิ่น โดยสถานการณ์ที่อาจเกิดปัญหาคือเมื่อรถขับผ่านหรือเลี้ยวบริเวณสี่แยกในขณะที่สัญญาณไฟจราจรเป็นไฟเหลือง และเมื่อรถเปลี่ยนเลนจากเลนที่ต้องเลี้ยวเท่านั้นเพื่อที่จะขับทางตรงต่อไป
“ระบบดังกล่าวอาจเปลี่ยนความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็วไม่ทัน หรือตอบสนองไม่เพียงพอในกรณีที่ผู้ขับขี่ขับเร็วเกินกำหนด”
ทั้งนี้ เทสลาและ NHTSA ระบุว่า ฟีเจอร์ขับรถขั้นสูงของซอฟต์แวร์ FSD ไม่ได้ทำให้รถขับเองโดยอัตโนมัติ และผู้ขับขี่จำเป็นต้องตั้งใจขับขี่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.พ. 66)
Tags: รถยนต์, สหรัฐ, เทสลา