บมจ.นิวทรีชั่น เอสซี (NTSC) เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 25 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ในช่วงต้นปี 66
NTSC ประกอบธุรกิจนำเข้า ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารคนและอาหารสัตว์ เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบส่วนผสมในการปรุงอาหารของลูกค้า สามารถจำแนกธุรกิจได้เป็น 2 ส่วน คือ 1) ธุรกิจวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารคน เป็นรายได้หลักราว 90% และ 2) ธุรกิจวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารสัตว์ เป็นสัดส่วนรายได้ 10%
นางสาวพัชร์ เอกปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NTSC เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า เราต้องการใช้เงินระดมทุนสำหรับโครงการในอนาคต ทั้งเครื่องจักรในการผลิต OEM เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น และโครงการผลิตสารกระตุ้นความน่ากินในสัตว์เลี้ยง ที่เราเห็นศักยภาพและโอกาสในตลาดนี้อีกมาก
“หากเราผลิตสารนี้เองได้ จะได้ความสดใหม่ และเกิดสูตรเฉพาะตัวให้ลูกค้า แน่นอนว่าทุกวันนี้การนำเข้าต้องเสียภาษี แต่จริง ๆ เรามีวัตถุดิบที่เป็น Waste สำหรับนำมาผลิตอยู่แล้ว ซึ่งต้นทุนจะต่ำ ถ้าเราดึงประโยชน์และสร้างมูลค่าตรงนี้ เราก็จะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นแน่นอน” นางสาวพัชร์ กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจระยะยาว 3-5 ปี วางแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ ทั้งลูกค้ากลุ่ม B2B ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักอยู่แล้ว ขณะที่ลูกค้ากลุ่มร้านอาหาร (Food Service) และกลุ่มผู้บริโภค ยังไม่ได้ขยายไปมากนัก ก็นับว่ายังมีศักยภาพและโอกาสอีกมหาศาล ถ้าเราได้รับเงินระดมทุนตรงนี้
ส่วนตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง ต้องบอกว่าประเทศไทยติดท็อป 1 ใน 5 ของโลกที่ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง แค่เกาะติดตรงนี้ให้ได้ก็มีโอกาสมากแล้ว รวมถึงบริษัทต่างชาติก็เริ่มมองหาคู่ค้าหรือพันธมิตรในไทยที่จะช่วยขยายธุรกิจในโซนอาเซียน ซึ่งถ้าเราไปจับมือกับเขาได้ก็จะช่วยให้เราสามารถขยายส่วนนี้ได้อีกมาก
“จริง ๆ บริษัทมหาชนหลายแห่งตอนนี้ก็มุ่งไปในส่วนนี้เหมือนกัน ซึ่งเราก็จะเป็นส่วนที่จะไปเสริมให้เขาสามารถขยายไปในอาหารสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้นในอีกสัก 3-5 ปีข้างหน้า เราจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มอาหารสัตว์เป็น 15-30% ของรายได้รวมทั้งหมด จากปัจจุบันที่ 10% เราก็วางแผนหาพาร์ทเนอร์ที่จะทำให้บริษัทต่อสายห่วงโซ่ธุรกิจไปที่ต้นน้ำหรือปลายน้ำในอนาคต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 66)
