เอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทขาดทุนจากการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4/2565 เนื่องจากความต้องการชิปหน่วยความจำชะลอตัวลงอย่างมาก
ทั้งนี้ เอสเค ไฮนิกซ์ ขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 ทั้งสิ้น 1.7 ล้านล้านวอน (1.38 พันล้านดอลลาร์) สวนทางกับไตรมาส 4/2564 ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 4.2 ล้านล้านวอน
ตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4/2565 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เอสเค กรุ๊ป (SK Group) เข้าซื้อกิจการไฮนิกซ์ (Hynix) เมื่อปี 2555 และยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเรฟินิทีฟ สมาร์ทเอสทิเมต (Refinitiv SmartEstimate) คาดการณ์ไว้ที่ 1.3 ล้านล้านวอน
ส่วนรายได้ในไตรมาส 4/2565 ลดลง 38% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 7.7 ล้านล้านวอน
ทางด้านบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำและสมาร์ตโฟนรายใหญ่ของโลกเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 ทรุดตัวลง 69% แตะที่ระดับ 4.3 ล้านล้านวอน (3.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ผู้บริโภคพากันรัดเข็มขัด ซึ่งทำให้ยอดขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 66)
Tags: ชิปเซมิคอนดักเตอร์, เกาหลีใต้, เอสเค ไฮนิกซ์