บมจ.ซีแพนแนล (CPANEL) ลุยทุ่ม 500 ล้านบาทตั้งโรงงานใหม่ขยายกำลังผลิตตามแผนงานปักหมุดเดินเครื่องปี 67 อัพกำลังผลิต 7.9 แสนตารางเมตร จากปีนี้จะลงทุนขยักแรก 30 ล้านบาทเพิ่มครื่องจักรดันกำลังการผลิตเพิ่ม 25% เป็น 9 แสนตารางเมตร และปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความสูญเสียในการผลิต เพิ่มโอกาสการรับงาน รองรับความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น
สำหรับแผนงานปี 66 ชูกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าอสังหาฯ หัวเมืองใหญ่ โรงแรม นิคมฯ ลุ้นผลประกอบการนิวไฮต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% พร้อมรักษาความสามารถการทำกำไร หลังตุน Backlog พุ่งเป็น 1,295 ล้านบาท ขณะที่มีลูกค้าจ่อคิวเซ็นสัญญามูลค่า 200 ล้านบาท ภาพรวมอสังหาฯ-ท่องเที่ยวคึกคัก หนุนกำลังซื้อ (Pent Up Demand)
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ CPANEL เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2566 บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า พร้อมเพิ่มกำลังการผลิต ตั้งเป้าหมายผลประกอบการทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีรายได้เติบโต 10-15% พร้อมรักษาความสามารถการทำกำไรจากการดำเนินงาน
การดำเนินงานปีนี้บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าภาคอสังหาฯ หัวเมืองใหญ่ ทั้งแนวราบ แนวสูง อาทิ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงลูกค้ากลุ่มโรงแรม และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ และภาคท่องเที่ยว
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 1,295 ล้านบาท ทยอยรับรู้ภายในปี 66-67 นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1/66 บริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจากลูกค้า 3 ราย มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 2 ราย แนวสูง 1 ราย
ขณะที่ ภาพรวมตลาดอสังหาฯ มีสัญญาณที่ดี จำนวนบ้านจัดสรรก่อสร้างใหม่ในเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑลยังคงเติบโต โดยเฉพาะบ้านระดับกลาง-บนสำหรับอาคารชุด คอนโดมิเนียมคาดว่าจะได้รับอานิสงส์อย่างมากจากการที่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน กลับมาเปิดประเทศเต็มตัว
อีกทั้ง ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในประเทศ เมียนมาร์ ไต้หวัน และ ยุโรปบางประเทศ สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่จะเป็นบ้านหลังที่สอง (Second Home), การกระจายฐานการผลิต และ การลงทุน เนื่องจากประเทศไทยค่อนข้างมีความเป็นกลางในเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้มีประชากรในพื้นที่ EEC เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา มีอัตราการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ จาก 12% เป็น 15 % และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ประเทศไทยได้รับปัจจัยเชิงบวกจากจีนค่อนข้างมากโดยเฉพาะภาคอสังหาฯ และการท่องเที่ยว ประกอบกับความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Pent Up Demand) จากความต้องการที่ถูกอั้นไว้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาจส่งผลให้การแข่งขันของผู้ประกอบการอสังหาฯ สูงขึ้น โดยต้องการความรวดเร็วในการส่งมอบงานได้ทันเวลา ลดต้นทุนการก่อสร้าง ลดจำนวนแรงงาน อีกทั้งสามารถรักษาเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) ในการดำเนินงาน ซึ่ง Precast Concrete สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ดี ถือเป็นโอกาสในการรับงานให้กับบริษัท และเชื่อว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะผลักดันให้ผลประกอบการปี 66 เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้” นายชาคริต กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 66)
Tags: CPANEL, ชาคริต ทีปกรสุขเกษม, ซีแพนแนล, หุ้นไทย