บริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ภายใต้การกุมบังเหียนของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของสมญานามพ่อมดแห่งโอมาฮ่า ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการลงทุนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากเดิมที่เน้นหนักไปที่ภาคธนาคาร ประกันภัย พลังงาน สื่อสารมวลชน และสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันหันมาสนใจภาคเทคโนโลยีที่เติบโตแบบก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้น
เว็บไซต์เดอะ มอตลี ฟูล (The Motley Fool) ระบุว่า เฉพาะหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ 3 แห่งก็คิดเป็นสัดส่วนถึงประมาณ 39% ของการลงทุนทั้งหมดของบริษัทเบิร์กเชียร์แล้ว โดยบริษัทดังกล่าวได้แก่ :
1. แอปเปิ้ล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดที่ 37.3% มูลค่าอยู่ที่ 1.191 แสนล้านดอลลาร์ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีนับตั้งแต่เบิร์กเชียร์เริ่มเข้าถือหุ้นแอปเปิ้ลเป็นครั้งแรก บริษัทเทคโนโลยีแห่งนี้ก็สามารถผงาดขึ้นเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก
2. ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ (TSMC) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1.4% หรือ 4.5 พันล้านดอลลาร์ โดยในไตรมาส 3/2565 เบิร์กเชียร์ได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเข้าซื้อหุ้น แม้จะมีสัดส่วนน้อยกว่าแอปเปิ้ลมาก แต่ยังถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูง เนื่องจากมีหุ้นเพียง 13 ตัวที่เบิร์กเชียร์ถือครองโดยคิดเป็นสัดส่วน 1% ขึ้นไป โดยสาเหตุที่ทำให้นายบัตเฟตต์เข้าซื้อหุ้น TSMC นั้นนักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นเพราะ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของแอปเปิ้ล โดยรายได้ราว 1 ใน 4 ของ TSMC มาจากแอปเปิ้ล
3. เอชพี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1% มูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์ โดยเบิร์กเชียร์เริ่มเข้าซื้อหุ้นบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์แห่งนี้ในไตรมาสแรกของปี 2565 พร้อมเดินหน้าซื้อแบบต่อเนื่อง ก่อนขายทิ้งส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบันยังนับว่าถือหุ้นดังกล่าวในสัดส่วนที่สูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ม.ค. 66)
Tags: TSMC, วอร์เรน บัฟเฟตต์, เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์, เอชพี, แอปเปิ้ล